คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวกีฬา

UFABETWIN “อาร์เตตา” ลั่นทุกเกมมีความหมายไม่มองข้าม พร้อมเผยเหตุตัวเก่ง “อาร์เซนอล” โดนถอดกลางคัน

UFABETWIN มิเกล อาร์เตตา ยืนยันทุกเกมของ

UFABETWIN  อาร์เซนอล มีความหมายหมด และยังไม่มองถึงเกมรอบหน้าที่เจอกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะว่ามีศึกใหญ่รออยู่

ควันหลงเกมที่ อาร์เซนอล บุกไปเอาชนะ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมจากลีกวันอังกฤษ ได้ด้วยสกอร์ 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

หลังเกมนี้ มิเกล อาร์เตตา กุนซือของทัพ “ปืนใหญ่” ออกมาเปิดใจหลังชัยชนะเกมนี้ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ทุกเกมของ อาร์เซนอล มีความหมายทั้งหมด

และจะยังไม่มองข้ามชอตโดยเด็ดขาด ซึ่งเจ้าตัวเผยเพิ่มอีกว่า ยังไม่มองถึงเกมรอบหน้าที่จะต้องบุกถิ่น เอติฮัท สเตเดียม ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากทีมมีเกมดาร์บี

แมตช์ ลอนดอนเหนือ ที่จะพบกับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาก่อนและจะมองทีละเกม

นอกจากนี้ ยังอัปเดตสาเหตุที่ถอด บูกาโย ซากา ปีกตัวจี๊ดของทีมออกจากสนามในเกมนี้ โดยเจ้าตัวเผยว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ ซากา ยังสบายดี และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

และการเปลี่ยนตัวเป็นเรื่องของแท็กติกในสนามเท่านั้นทำตามแผน “ปาร์ค ฮัง ซอ” ชี้ บอกให้แข้ง “เวียดนาม” เลิกเล่นแรง-เผย 1 เหตุทำเข้าชิง

ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือเวียดนาม ชี้ชัด ได้บอกแข้ง “ดาวทอง” ให้เลิกเล่นแรง เพราะเป็นตัวอย่างไม่ดีให้แข้งรุ่นหลัง-วิเคราะห์เกมอย่างดี ทำชนะ อินโดฯ เข้าชิง เอเอฟเอฟ 2022

วันที่ 10 มกราคม 2566 หลังจากที่ ทีมชาติเวียดนาม เปิดบ้านชนะ อินโดนีเซีย 2-0 ในศึก เอเอฟเอฟ อาเซียน คัพ 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ทำให้สกอร์รวม 2 นัด “ดาวทอง” เข้ารอบด้วยสกอร์ 2-0

เกมนี้ เวียดนาม มีโอกาสจบสกอร์ถึง 14 ครั้ง ตรงกรอบ 5 ครั้ง โดยป้องกันเกมรักของ อินโดนีเซีย ได้ยอดเยี่ยม เพราะ “อิเหนา” มีโอกาสยิง 9 ครั้ง แต่ไม่ตรงกรอบเลย

UFABETWIN

หลังเกม ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือทีมชาติเวียดนาม

เผยว่า “ก่อนเกมนี้ประเมินจุดอ่อนของคู่แข่ง เราวิเคราะห์คู่ต่อสู้อย่างรอบคอบ พวกเขาเล่นโดยเน้นการโต้กลับเร็วเป็นหลัก”

“ผมภูมิใจกับผลงานที่ออกมา แต่ผมบอกลูกทีมว่า ให้เลิกเล่นแรง เพราะมันจะเป็นตัวอย่างไม่ดีแกนักเตะเยาวชนที่จะ

ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมต่อไปในอนาคต ทุกคนทำตามแผนที่วางไว้ มันทำให้เราผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้”

“ก่อนเกมเราอาจจะมีการถกเถียงกัน (กับ ชิน แต ยอง) แต่สุดท้ายพอฟุตบอลจบลง เราก็ไม่มีอะไรกัน ทุกคนต่างกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป”

“อาร์เซนอล” ขนตัวจริงสลับสำรอง บุกไล่ยิง “อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด” ลิ่วรอบ 4 “เอฟเอ คัพ”

จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มาตามนัดชนะ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด ลิ่วรอบ 4 ชน แมนเชสเตอร์ ซิตี้

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2022-23 รอบ 3 ซึ่งเป็นรอบแรกที่สโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้ง 20 ทีมจะลงแข่งขันในรอบนี้โดยที่

อาร์เซนอล บุกไปเยือน คาสซาม สเตเดี้ยม ของ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมในลีกวัน อังกฤษ

โดยผลปรากฎว่า จ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ไม่พลาดท่าให้กับทีมที่ห่างกัน 2 ลีก บุกมาเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 โดยได้ประตูจาก

โมฮาเหม็ด เอลเนนี ในนาทีที่ 63 และ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ ในนาทีที่ 70 และ 76 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ไปได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล ที่แม้จะเข้ารอบ 4 ได้สำเร็จ แต่ก็ต้องเจอศึกหนักเมื่อต้องบุกไปเยือนรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก

อังกฤษ อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 28 มกราคม นี้ เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย UFABETWIN

UFABETWIN หนักกว่าที่คิด “ลิเวอร์พูล” เซ็ง “ฟาน ไดค์” ส่อพักยาว เจ็บจากพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด

UFABETWIN “ผลพวงโดนผึ้งต่อย” ลิเวอร์พูล

UFABETWIN อาจหมดสิทธิ์ใช้งานแนวรับตัวเก่งหลายนัด หลังอาการบาดเจ็บจากเกมแพ้ เบรนท์ฟอร์ด หนักกว่าที่คิด

วันที่ 5 มกราคม 2566 บีบีซี สปอร์ต สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี รายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้ส่งตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อประเมินอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งแรกของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด ที่บุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ฟาน ไดค์ ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ครบทุกนัดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ล่าสุดกลับมีปัญหาบาดเจ็บจากเกมแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าอาการรุนแรง

กว่าที่ประเมินในเบื้องต้น แม้ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือชาวเยอรมัน จะออกมาบอกหลังจบเกมว่าเป็นการเปลี่ยนตัวเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บหนัก และไม่ได้มีอาการรุนแรงก็ตาม

เวลานี้ “หงส์แดง” มีนักเตะ 5 รายในบัญชีเดี้ยง ประกอบด้วย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (แฮมสตริง), ดิโอโก โชตา (แฮมสตริง), หลุยส์ ดิอาซ (เข่า), โรแบร์โต เฟอร์มิโน (น่อง)

และ เจมส์ มิลเนอร์ (แฮมสตริง) ส่วนกองหลังตัวกลางที่ยังฟิตสมบูรณ์มีอยู่ 4 ราย คือ โจเอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต, นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ โจ โกเมซ ที่หุบจากแบ็กขวาเข้ามาเล่นได้

สถานการณ์ล่าสุด ลิเวอร์พูล อยู่ในอันดับ 6 ของพรีเมียร์ลีก มี 28 คะแนนจาก 17 นัด ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 ในพื้นที่โควตายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

อยู่ 7 แต้ม นัดต่อไปจะเปิดบ้านต้อนรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันเสาร์ที่ 7 มกราคมนี้ แข่งขัน 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย.

อดีตแนวรับหงส์แดง โบ้ย มือขวา “คลอปป์” เป็นตัวการสำคัญทำ “ลิเวอร์พูล” ฟอร์มบู่

เจมี คาราเกอร์ อดีตแนวรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กูรูลูกหนังชื่อดัง ลั่น มือขวา “คลอปป์” คือตัวการสำคัญทำ “ลิเวอร์พูล” ไม่ดุดันเหมือนเดิม
ควันหลง

UFABETWIN

หลังจากเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้

ทีมอันดับ อันดับ 10 ของตารางอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ถึงสนาม จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดียม ในเกมแรกของปี 2023 ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ทำให้ “หงส์แดง” มี 28 แต้มเท่าเดิม ร่วงไปอยู่อันดับ 6 ของตาราง ตามหลังอันดับ 4 อย่าง แมนยูฯ 7 คะแนน ล่าสุด เจมี คาราเกอร์ อดีตแนวรับ ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบัน

เป็นกูรูลูกหนังชื่อดัง ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ช่วยของ เยอร์เกน คลอปป์ อย่าง เป๊ป ลินเดอร์ส คือตัวการสำคัญที่ทำให้ทีมมีผลงานงานที่ดร็อปลงไป รูปแบบ

การเล่นที่แปลกตาไม่ดุดันเหมือนเดิม เนื่องจาก คลอปป์ ไว้วางใจให้ ลินเดอร์ส ปรับปรุงทีมให้เน้นไปที่แท็กติกมากขึ้น และระบบการเล่นของทีมที่เปลี่ยนไปมากเกิน จนทำให้นักเตะบางคนปรับตัวไม่ทัน

คาราเกอร์ กล่าวว่า “สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ มันทำให้ผมนึกถึงอาร์เซนอลในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ไม่เคยชนะอีกเลย เมื่อมันกลายเป็น

เทคนิคมากเกินไป ผมไม่รู้ว่า เป๊ป ลินเดอร์ส มีอิทธิพลมากเกินไปหรือเปล่า แน่นอนเขาเป็นผู้ช่วยที่ประสบความสำเร็จมากมายกับทีม แต่ทีมลิเวอร์พูลในเวลานี้มันดู

เหมือนผู้เล่นถูกยัดอะไรไปในการเล่นของเขาที่มันทำให้ทีมไม่เหมือนเดิม และเน้นไปที่แท็กติกมากเกินไปหรือเปล่า”. UFABETWIN

UFABETWIN สโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมมิชอัลเบียนและความลึกลับของการยืมตัวเมื่อยืมตัว

UFABETWIN สโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมมิชอัลเบียนและความลึกลับของการยืมตัวเมื่อยืมตัว

UFABETWIN เวสต์บรอมวิช อัลเบียนมักจะเล่นซอสองเสมอในทริปก่อนคริสต์มาสที่โคเวนทรี ซิตี้ เทอร์รี ฮอลล์ ผู้สนับสนุนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแต่ยังคงเป็นหนึ่งในลูกชายที่โด่งดังที่สุดของโคเวนทรี เสียชีวิตเมื่อสองสามวันก่อนหน้านี้ และฝ่ายเจ้าบ้านได้แสดงความไว้อาลัย

ต่อนักร้องผู้ซึ่งทีมตามมาด้วยชัยชนะ 1-0ผลลัพธ์นี้จบลงด้วยชัยชนะที่ทำให้ชีวิตกลับเข้าสู่ฤดูกาลของอัลเบียน ความพ่ายแพ้ในบ้านโดยเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดเมื่อปลายเดือนตุลาคมทำให้พวกเขาหล่นไปอยู่อันดับท้ายตารางของแชมเปี้ยนชิพ 2 สัปดาห์ครึ่งหลังการจากไป

ของสตีฟ บรูซโดยแทบไม่ต้องแปลกใจเลย ทีมมีปฏิกิริยาค่อนข้างดีต่อการขาดงานของบรูซ โดยเก็บชัยชนะได้ในนัดแรกภายใต้การดูแลของริชาร์ด บีล แต่เกมกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดแรก

ที่คาร์ลอส คอร์เบอแรน ผู้จัดการทีมคนใหม่คุมทีมอย่างถาวร ผู้จัดการคนใหม่ต้องทำแต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ได้เริ่มปรับแต่งทีมผู้เล่นที่ทำงานผิดพลาดมาจนบัดนี้ ระหว่างเกมกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และเกมกับโคเวนทรี ซิตี้ อัลเบี้ยนชนะ 5 นัดติดต่อกัน ยิงได้ 9 ประตู

และเสียเพียง 1 ประตู ชัยชนะทั้ง 5 รายการนั้นทำให้คะแนนรวมของทีมในฤดูกาลนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยพาพวกเขาจาก 14 เป็น 29 ในเวลาเพียงหกสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากเมื่อเราพิจารณาว่าพวกเขาไม่ได้เล่นเกมลีกเลย

ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายนถึง วันที่ 12 ธันวาคม การวิ่งพาพวกเขาทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 16 ของตารางมีก้อนเมฆปกคลุม ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2022 ในวันที่ 11 ธันวาคม 2021

UFABETWIN

พวกเขาอยู่ในอันดับที่สามในตาราง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พวกเขาต้องการครอบครองไม่มากก็น้อยตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล

เมื่อกลางเดือนมีนาคมพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 14 ซึ่งเป็นการกลับสู่พรีเมียร์ลีกอย่างรวดเร็วหลังจากตกชั้นเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว พวกเขากลับมาอยู่ที่อันดับ 10 ของตาราง แต่นี่ไม่ใช่การกลับมาสู่แชมป์เปี้ยนชิพ

อย่างที่หลายคนคาดหวัง สตีฟ บรูซได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ แทนที่วาเลเรียน อิสมาเอล ท่ามกลางคำเตือนออนไลน์มากมายจากผู้สนับสนุนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง ปรากฎว่าคำเตือนเหล่านั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์แต่ถ้าการจากไปของบรูซจากทำให้เมฆก้อนหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือคลับหายไป ก้อนอื่นๆ ก็ยังคงอยู่อย่างดื้อรั้น

มีคำถามเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของสโมสรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และศูนย์กลางของข้อกังวลเหล่านี้คือการที่สโมสรปล่อยเงินกู้ให้กับทั้งเจ้าของปัจจุบันและอดีต

เจ้าของ ก่อนหน้านี้สโมสรปฏิเสธการสอบสวนใด ๆ ว่าเงินกู้นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร – ก่อนหน้านี้ที่ประชุมใหญ่เคยเห็นผู้นำของกลุ่มซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร ใช้คะแนนเสียงของเขาเพื่อปิดกั้น

ซีอีโอของสโมสรได้ตกลงที่จะตรวจสอบเงินกู้ 3.7 ล้านปอนด์ให้กับอดีตเจ้าของ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม แต่ก็มีความขัดแย้งเพิ่มเติมด้วยการเผยแพร่บัญชีของสโมสรจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564

แสดงให้เห็นว่าเงินกู้เพิ่มเติมอีก 4.95 ปอนด์ ถูกส่งไปยัง ซึ่งเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่มี เป็นเจ้าของ เพื่อช่วยเหลือบริษัทของเขาให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิด สัญญาว่าจะชำระเงินจำนวนนี้พร้อมดอกเบี้ย 50,000 ปอนด์

ภายในกลางเดือนกันยายน ต่อมาได้ขยายออกไปถึงสิ้นเดือนธันวาคม แต่จะถึงเส้นตายนี้หรือไม่?มีความสำคัญอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของการที่สโมสรมีเงินเข้าธนาคารภายในสิ้นปีปฏิทิน

หน้าต่างการโอนจะเปิดขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และการที่คาร์ลอส คอร์เบอแรนมีความคืบหน้าอย่างมากกับผู้เล่นกลุ่มนี้ตั้งแต่เขามาที่เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ดูเหมือนว่าสโมสรจะเข้าใจถึงคุณค่า

ของการให้เงินเขาเพื่อใช้ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมในช่วงเวลานี้ท้ายที่สุด ทีมกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง และนั่นคือธรรมชาติของแชมเปี้ยนชิพ แม้ว่าอันดับ 16

ของตารางของอัลเบียนจะฟังดูเจียมเนื้อเจียมตัว แต่พวกเขาห่างจากตำแหน่งเพลย์ออฟเพียง 5 แต้ม นอกจากนี้ เงินกระโดดร่มในพรีเมียร์ลีกของอัลเบี้ยนจะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้

หากพวกเขาไม่ได้เลื่อนชั้นในฤดูกาลนี้ พวกเขาจะมีฐานะทางการเงินที่แย่ลงอย่างมากในฤดูกาลหน้า เชื่อกันว่า ลาย เป็นหนี้สโมสรรวมกันประมาณ 10 ล้านปอนด์

ได้กล่าวแล้วว่า เขา ‘ได้รับการยืนยันจากว่าเงินกู้ยืม 4.95 ล้านปอนด์ที่สโมสรฟุตบอลเป็นหนี้อยู่จะได้รับการชำระคืนภายในกำหนดเส้นตายที่แก้ไขใหม่คือวันที่ 31 ธันวาคม 2022’

UFABETWIN

แต่สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามเพิ่มเติม: หากรับประกันว่าจะได้รับเงินจำนวนนี้ภายในวันส่งท้ายปีเก่า

แล้วเหตุใดเวสต์บรอมวิช อัลเบียนจึงพิจารณาเงินกู้จาก ซึ่งเป็นผู้ให้กู้เงินต่อเนื่องแก่สโมสรฟุตบอลที่ไมเคิล เดลล์เป็นเจ้าของ รายละเอียดเฉพาะของเงินกู้นี้หาได้ยาก มีคนแนะนำว่าเงินกู้นี้อาจสูงถึง 25 ล้านปอนด์

โดยที่อัตราดอกเบี้ยยังเป็นเรื่องลึกลับ คำถามมากมาย คำตอบน้อยเหลือเกิน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลายไม่จ่ายคืนเงินกู้และสโมสรไม่ได้เลื่อนชั้นในตอนจบฤดูกาลนี้? เนื่องจากเงินกู้ยืมจำนวน 30 ล้านปอนด์

ที่ยืมมาจากสโมสรนอกเหนือไปจากเงินกู้ในอดีตของเจเรมี พีซ และการจ่ายเงินแบบร่มชูชีพกำลังจะสิ้นสุดลง การกู้ยืมเงิน 25 ล้านปอนด์ เพื่อใช้จ่ายในหน้าต่าง โอนย้ายเดือนมกราคมเริ่มดูเหมือน

เป็นการพนันเล็กน้อย ที่สโมสรจะเสีย ไปไม่ได้สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเห็นเงินกู้เหล่านี้กองอยู่ในบัญชีของบริษัท เพิ่มชั้นของความไม่แน่นอนที่ไม่จำเป็น อย่างสมบูรณ์ให้กับความ

เป็นอยู่ทางการเงินของสโมสร และนั่นคือก่อนที่เราจะเข้าสู่เรื่องเล็ก ๆ ว่าทำไมสโมสรฟุตบอลจึงควรปล่อยเงินกู้ เพื่อประคับประคอง บริษัทอื่น ๆ ของเจ้าของสโมสรตั้งแต่แรก หากเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

ล้มเหลวในการเลื่อนชั้นเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ กลุ่มของไล เข้าซื้อสโมสรในปี 2559 ที่ไม่มีเงินในพรีเมียร์ลีก ไหลผ่านสโมสรเลย ไม่ว่าสิ่งอื่นใดอาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิด

ขึ้นตลอดปี 2023 ที่ สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง จำเป็นต้องได้รับการจัดวางและแก้ไข ความยุ่งเหยิง และความล่าช้าในการกู้ยืมเงิน เหล่านี้ จะต้องหยุดลง และการสืบสวนตามสัญญาจะได้รับ

อำนาจในการเปิดเผย ความจริงที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับ การดำเนินการของสโมสรในช่วง ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเงินเดิมพันอาจ เพิ่มขึ้นตลอดปีหน้า และก็เกลื่อนไป ด้วยร่างของสโมสรที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก

และจัดการทางที่ผิดพลาด จากการกลับมา ไม่สามารถเข้าร่วมสโมสร ที่ไม่มีความสุขได้ UFABETWIN

UFABETWIN หน้าใหม่, รุ่นใหญ่, เสือเฒ่า : การใช้ 3 ช่วงอายุในอาชีพให้ประสบความสำเร็จแบบ “บุฟฟ่อน”

สถิตินายทวารค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน คงอยู่มานานเกือบ 20 ปี จนกระทั่ง อลีสซง เบ็คเกอร์ และ เกปา อาร์ริซาบาลากา มาทำลายลงเมื่อปี 2018

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าในยุคเกือบ 2 ทศวรรษก่อนหน้านี้ ไม่มีทีมใดกล้าทุ่มเงินซื้อผู้รักษาประตูในราคาระดับแพงเวอร์เลยสักครั้ง ยกเว้น บุฟฟ่อน ที่ยอดเยี่ยมจนครองสถิติมาอย่างยาวนาน

เรื่องคุ้มหรือไม่เราคงไม่ต้องถาม แต่ราคาค่าตัวของ บุฟฟ่อน ได้มาจากการทำงานหนักมาตลอด 20 ปี ด้วยมาตรฐานที่สูงทุกปี

ปีแห่งน้องใหม่.. การรู้หน้าที่เป็นสิ่งสำคัญ

ชื่อของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน โด่งดังมานานเหลือเกินตั้งแต่ในยุคที่แฟนบอลบ้านเรายังต้องรอผลบอลกันข้ามวันข้ามคืนจนกว่าหนังสือพิมพ์รายวันจะส่งมาถึงมือ จนกระทั่งยุคโซเชียลมีเดียที่อัปเดตกันนาทีต่อนาที บุฟฟ่อน ก็ยังคงเป็นที่ถูกพูดถึงเสมอ

จุดเริ่มต้นของ บุฟฟ่อน ก็เหมือนกับใครอีกหลายๆคน ในวันที่คุณยังไม่มีชื่อเสียงและไม่มีใครกล้าการันตีความสามารถให้ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือการหาตัวเองให้เจอ ลองผิด ลองถูก จนกระทั่งเจอสิ่งที่ใหญ่ที่สุด และถ้าเจอสิ่งนั้นแล้วก็พุ่งไปให้สุดตัว

เดิมที บุฟฟ่อน ไม่ได้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาตั้งแต่แรก เขาเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร ปาร์ม่า รุ่นยู-13 และเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางแต่ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ซึ่งในเด็กวัยขนาดนั้นการลองผิดลองถูกเป็นสิ่งที่ดีเสมอ เมื่อคุณผิดพลาดคุณก็แค่ผิดพลาด ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย มีแต่ประสบการณ์เท่านั้นที่ได้มา เขาจึงลองไปเล่นเป็นผู้รักษาประตูแทน จุดเริ่มต้นเกิดจากความประทับใจที่ได้ดูลีลาการเซฟของ โธมัส เอ็นโคโน่ ผู้รักษาประตูทีมชาติแคเมอรูนชุดฟุตบอลโลก 1990

“ในตอนที่ยังเป็นเด็ก ไม่ว่าใครก็อยากจะเป็นนักเตะที่ได้ยิงประตูมากกว่าคนที่ต้องไปเป็นโกลหรือตัวสำรองอยู่แล้ว ผมเองก็ลองไปเรื่อย กองกลางบ้าง กองหน้าก็เคย แต่เล่นยังไงมันก็ไม่ดี จนผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่รู้อะไรไหม คุณมีอะไรให้เสียเหรอ?.. ไม่มีหรอก ผมไม่กลัวความผิดพลาด ผมสนุกกับมัน และผมก็มาเจอกับตำแหน่งประจำของผมโดยบังเอิญ” บุฟฟ่อน เล่าถึงที่มา

“พ่อของผมบอกว่าผมควรจะลองดูสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู ผมเองก็ไม่ค่อยเต็มใจนักหรอกในตอนแรก แต่พอได้ดูฟุตบอลโลก 1990 ลีลาของ เอ็นโคโน่ ถูกใจผมอย่างแรงเลย ผมดูฟุตบอลโลกครั้งนั้นด้วยความรู้สึกยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความทรงจำ นอกจากดูทีมชาติอิตาลี ก็มีแคเมอรูนนี่แหละที่ผมตามเชียร์”

นั่นแหละคือที่มาของ บุฟฟ่อน ประการแรกคือทัศนคติของเขาที่พร้อมยอมรับความผิดพลาดและมองหาวิธีแก้ไขเสมอ เด็กบางคนอาจจะหัวดื้อสำหรับเรื่องแบบนี้ แต่ บุฟฟ่อน โชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนักกีฬา พ่อของเขาเป็นอดีตนักวิ่งระดับเยาวชนทีมชาติ, แม่ของเขาเป็นนักทุ่มน้ำหนักตัวทีมชาติอิตาลี, ลุงของเขาเป็นนักบาสเกตบอลระดับลีกอาชีพ และน้องสาวของเขาก็เป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติ

การอยู่กับกลุ่มคนที่มีอาชีพเป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์ ทำให้เขาได้เห็นว่าคนเหล่านี้ผิดหวังมาไม่น้อยกว่าจะเดินทางไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพ ดังนั้น บุฟฟ่อน จึงได้รับการอธิบายแบบเห็นภาพ มีตัวอย่างให้เห็นชัด และได้รับการปลูกฝังด้วยแนวคิดของการเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง

การยอมรับความผิดพลาดและหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเป็นเพียงการกรุยทางระยะแรก มันเหมือนกับการลงแรงเอาจอบขุดแร่ขึ้นมาสักก้อน เมื่อเจอแร่ก้อนนั้นแล้วมันอาจจะยังมีราคาไม่มาก แต่ถ้าหากเอาไปผ่านกระบวนการเจียระไน แร่ราคาถูกก็อาจจะกลายเป็นเพชรราคาแพงได้

UFABETWIN

ขั้นต่อของการเจียระไนในแบบของบุฟฟ่อนในช่วงวัยรุ่นคือ การกระหนักรู้ถึงหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นก็คือการทำงานหนักเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา

“สิ่งที่ผมพอจะแนะนำนักเตะวัยรุ่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูได้ คือคุณต้องเป็นคนที่รับมือกับความเจ็บปวด (จากความผิดพลาดและความกดดัน) ได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะ คุณต้องเป็นพวกมาโซคิสม์ (ชอบความเจ็บปวด) ไม่งั้นมันยากมากที่คุณจะเล่นตำแหน่งนี้ได้แบบเป็นอาชีพ คุณทำในสิ่งที่ไม่เหมือนใครในสนาม ขณะที่คนอื่นใช้เท้าเล่น แต่คุณต้องใช้มือเท่านั้น ความหวังทั้งหมดอยู่ที่คุณ” บุฟฟ่อน

“ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าในการลงเล่นแต่ละครั้ง หน้าที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันประตู อย่าได้สูญเสียจุดแข็งนี้เด็ดขาด จากนั้นก็ค่อยๆเรียนรู้วิธีรับมือกับลูกโด่ง ลูกครอส หาวิธีรับบอลต่ำที่เหมาะกับสรีระของตัวเอง”

“ทุกทีมต้องการผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมที่รู้จักวิธีเซฟประตูก่อนเสมอ จากนั้นก็ค่อยมาวัดกันว่าผู้รักษาประตูคนไหนจะทำอะไรได้มากกว่านั้นบ้าง ถ้าเล่นบอลกับเท้าได้ดี อันนี้ยิ่งเยี่ยมเลย” บุฟฟ่อน กล่าว

เมื่อรู้หน้าที่ของตัวเองและทำงานหนัก เรื่องที่ว่ายากก็ง่ายขึ้นเอง บุฟฟ่อน ได้ลงเล่นเกมลีกนัดแรกให้ ปาร์ม่า ในเกมเจอกับ เอซี มิลาน ที่มีนักเตะอย่าง จอร์จ เวอาห์, โรแบร์โต้ บาจโจ้ และ อิวาน ซาวิเซวิช ในเกมนั้นเขาจบเกมด้วยการเซฟอุตลุดจน ปาร์ม่า เก็บผลสกอร์ 0-0 มาได้ และหลังจากเกมนั้น ชื่อของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์

“วันนั้นเป็นวันที่สวยงามที่สุด ช่วงชีวิตของผมเฝ้ารอโอกาสแบบนั้นเสมอ และผมก็ทำได้ดีมากๆที่ไม่เสียประตูเลยสักลูก ก่อนเกมเริ่มผมปลุกเร้าตัวเองให้มั่นใจและบอกตัวเองว่า ทำให้ได้ถ้าอยากจะไปอยู่ ณ จุดที่ตั้งเป้าไว้” บุฟฟ่อน กล่าวถึงเกมแรกของเขา

เป้าหมายชัดเจน ทำงานหนัก และมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ทุกอย่างคือจุดเริ่มต้นอาชีพของบุฟฟ่อนอย่างแท้จริง เขาแสดงทุกอย่างที่มีออกมาในวันนั้น ให้คุณลองนึกภาพผู้รักษาประตูวัย 18 ปี ที่ลงเล่นเป็นเกมแรก เซฟเป็นว่าเล่น แถมยังตะโกนใส่รุ่นพี่ที่ยืนผิดตำแหน่ง ร้องเตือนทุกคนในจังหวะอันตราย.. ทุกอย่างกลั่นออกมาจากการทำงานหนักในช่วงของการเป็นนักเตะระดับจูเนียร์อย่างแท้จริง

“ถามว่าวันนั้นผมตะโกนใส่กองหลังคนอื่นไหม? ผมคิดว่าผมทำแน่นอนเลยล่ะ ไม่ใช่เพราะผมเก๋าหรืออะไร แต่มันคือสิ่งสำคัญที่ผู้รักษาประตูต้องทำก็เท่านั้นเอง” บุฟฟ่อน ว่าไว้เช่นนั้น

ปีที่มีชื่อเสียง.. แค่อยู่กับที่ = ถอยหลัง

หลังจากเรื่องราวการประสบความสำเร็จกับ ปาร์ม่า ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ได้ บุฟฟ่อน ก็ได้โอกาสย้ายไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส ด้วยราคา 45 ล้านยูโร ในปี 2001 มันอาจจะเร็วไปหน่อยที่จะบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา แต่ทำไมจะพูดแบบนั้นไม่ได้ล่ะ? ในยุคที่นักเตะเก่งๆคนหนึ่งมีราคาราว 20 ล้านก็สุดหรูแล้ว แต่นี่คือผู้รักษาประตูที่ราคามากกว่าร่วม 2 เท่า.. มันย่อมหมายถึงว่าเขาเป็น 1 ในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกมิใช่หรือ?

ต่อจากนี้จึงเป็นพาร์ตของช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตการทำงานไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพหรืออาชีพไหนก็ตาม เมื่อคุณได้โอกาส มีรายได้ และมีชื่อเสียงแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปคือการรับมือกับความมั่งคั่งต่างๆที่ถาโถมมาให้ได้

จากคนที่เคยเดินไปชอปปิ้งสบายๆ กลายเป็นคนที่มีผู้คนรุมล้อมตลอดทางโดยที่ไม่มีเวลาส่วนตัว, จากเด็กวัยรุ่นที่มีเงินใช้ไปวันๆ สู่ชายหนุ่มที่มีเงินเข้าบัญชีสัปดาห์ละหลายล้าน, จากคนที่เดินไปไหนก็มีแต่คนชมว่าหมอนี่ทำงานเก่งชะมัด สู่วันที่เข้าไปสู่องค์กรที่ใหญ่กว่า มีผู้ร่วมงานเป็นยอดฝีมือ และมีการจับจ้องและจับผิดจากคนภายนอกมากกว่า.. ทั้งหมดนี้แหละคือสิ่งที่ บุฟฟ่อน ต้องเผชิญ

ต่อจากนี้ความผิดพลาดของเขาจะมีราคาแพงมากกว่าตอนเป็นวัยรุ่นมากๆ ความกดดันจะเกิดขึ้นทุกวินาที ดังนั้น บุฟฟ่อน ยืนยันเลยว่าข้อเดียวของช่วงอาชีพที่ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งสำคัญคือ “สู้กับใจตัวเองให้ชนะ”

“ผู้คนพูดถึงราคาค่าตัวของผม แต่พูดตรงๆ ผมพยายามบอกให้ตัวเองภูมิใจกับสิ่งนั้น อย่าได้เอามาคิดว่ามันเป็นปัญหาอะไรเลย ผมคิดว่าถ้ายูเวนตุสยอมซื้อผมในราคาขนาดนี้ นั่นเท่ากับว่าพวกเขาคงคิดแล้วว่าไอ้หมอนี่มันเก่งจริงๆ” บุฟฟ่อน กล่าวถึงเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง

“การที่ค่าตัวผมมีราคาแพงนั้นมันแสดงให้เห็นว่าฟุตบอลยุคใหม่เปลี่ยนไปแล้ว ผู้รักษาประตูมีส่วนสำคัญมากสำหรับทีมที่จะประสบความสำเร็จ ผู้รักษาประตูไม่ได้ด้อยค่าน้อยไปกว่ากองหน้า ดังนั้น มันก็คู่ควรกับการจะมีราคาแพงพอๆกันนั่นแหละ”

“ถ้าไม่ก้าวไปข้างหน้ามันก็เป็นการย่ำอยู่กับที่ ต่อให้ยูเวนตุสจะซื้อผม 5 ล้านยูโร ถ้าถามว่าผมจะย้ายทีมไหม? แน่นอน ผมเอาแน่ แต่เชื่อเถอะว่านี่คือกลไกของราคา ถ้าสมมติว่า 5 ล้านยูโรจริง ฝั่งปาร์ม่าก็คงไม่ชอบใจแน่” บุฟฟ่อน ย้อนกลับไปเล่าเหตุการณ์นั้นอย่างอารมณ์ดี

บุฟฟ่อน พยายามจะบอกว่าตัวเลขและราคาไม่ได้สำคัญเท่ากับผลงานในสนามเลย โลกของฟุตบอลมีเพียง 2 สิ่งเท่านั้นที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ 1 คือผลงานในสนาม และ 2 คือผลการแข่งขัน.. ชนะก็คือชนะ เล่นได้ยอดเยี่ยมก็แปลว่ายอดเยี่ยม ไม่มีการพลิกแพลงเล่นลิ้นใดๆทั้งสิ้น มองข้ามขั้นตอนที่ยุ่งยากทั้งหมดไป ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองไปถึงผลลัพธ์ให้ได้ แค่นั้นก็พอ

สิ่งที่ บุฟฟ่อน พูดมันดูง่ายมาก เพราะเขาเป็นคนที่ทำมันสำเร็จแทบทุกอย่าง ยกเว้นเสียแต่ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก กับฟุตบอลยูโรเท่านั้นที่เขาไม่ได้สัมผัส แต่อย่างน้อยๆ ในปีของการทำงานที่พีคที่สุดเขาก็ไปได้ไกลถึงการเป็นแชมป์โลก และนั่นเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนยอมรับแต่โดยดีว่า “เขาคือนัมเบอร์วัน” เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับคำถามทั้งหมดแล้ว

ทุกอย่างส่งต่อและเกื้อหนุนกัน ฝันในวัยเด็ก การทำงานหนักในวัยรุ่น การทำตัวให้เป็นมืออาชีพในช่วงเริ่มต้น และการรักษามาตรฐานไว้ในวันที่มีชื่อเสียง นี่คือสิ่งที่ บุฟฟ่อน เชื่อมั่นมาเสมอ

UFABETWIN

“หากไม่มีฝันก็คงยากที่จะไปถึงจุดสูงสุด ตอนเด็กๆผมฝันไว้ใหญ่โต ฝันว่าจะเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ โตขึ้นมาอีกหน่อยผมก็เก็บสะสมสมุดสติ๊กเกอร์ฟุตบอลโลก และฝันว่าจะได้เล่นในเซเรีย อา และติดทีมชาติอิตาลี”

“ฟุตบอลโลกสำหรับใครหลายคนเป็นสิ่งที่เกินฝัน แต่เมื่อคุณไปถึงจุดนั้นได้คุณจะพบว่านี่แหละคือรางวัลสูงสุดของอาชีพนี้ มันคือการปักหมุดว่าคุณได้เอาชนะทุกอย่างและประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งมีน้อยคนที่จะทำตามได้ และแน่นอนว่าถ้าไปถึงจุดนั้นได้ ต่อให้ตายตอนนี้ก็ให้คิดเสียว่าคุ้มแล้วที่ได้เกิดมา”

ปีแห่งชายสูงวัย.. ทำตัวให้น่าเคารพ ส่งต่อความรู้ให้คนรุ่นหลัง

อย่างที่ทุกคนรู้กัน ตอนนี้ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังคงไม่ได้แขวนถุงมือ เขาอายุ 43 ย่าง 44 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นผู้รักษาประตูของทีม ปาร์ม่า อยู่เหมือนกับตอนที่เขาอายุ 16 ปี

เขาเป็นคนที่รักษามาตรฐานของตัวเองมาได้ตลอดอาชีพอย่างยาวนาน แต่อะไรที่ทำให้เขาอยู่ในวงการได้นานขนาดนี้ แม้ว่าบางครั้งเขาจะไม่ใช่ตัวหลักของทีมอีกต่อไปกันล่ะ?

คำตอบของคำถามนี้ย้อนไปที่ทั้งหมดที่คุณอ่านมาจนถึงตอนนี้ เพราะทุกอย่างที่เขาผ่านมาคือสิ่งที่ควรค่าแก่การส่งต่อนั่นเอง ประสบการณ์เหล่านี้คือสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ และถ้า บุฟฟ่อน ไม่ส่งต่อให้ใคร มันคงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง

สิ่งที่แรกที่ บุฟฟ่อน ถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นเสมอโดยแทบไม่ต้องพูดเลยคือการทำงานหนักและทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น โลกฟุตบอลพัฒนาไปข้างหน้าทุกวัน ปัจจุบันผู้รักษาประตูนั้นมีบทบาทกับเกมมากกว่ายุคที่ บุฟฟ่อน เริ่มเดบิวต์ในอาชีพเยอะ แต่เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแม้จะเข้าสู่วัย 30 ปลายๆหรือจนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังพยายามปรับตัวให้ทันโลกอยู่เสมอ

“ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเราก็ต้องหมุนตามให้ทัน ทุกวันนี้มีผู้รักษาประตูหลายคนที่เก่งมาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกมองข้าม เพียงเพราะว่าพวกเขาจ่ายบอลกับเท้าได้ไม่เก่ง ยุคผมไม่เคยมีใครคิดถึงเรื่องนี้กันหรอก แต่ทุกวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว” บุฟฟ่อน กล่าว

บุฟฟ่อน พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองในวัย 30 ปลายๆ ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลย บางครั้งเขาอาจจะพลาดเพราะอายุมากขึ้น และต้องเปลี่ยนวิธีเล่นไปเล่นแบบที่แตกต่างจากที่เขาเคยทำมาตลอดอาชีพ แต่มันคือธรรมชาติของมนุษย์ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะแก้ไขหรือปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำๆ

บุฟฟ่อน เองก็ยอมรับว่าอาจจะมีปัญหากับแนวทางของการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ แต่สิ่งที่เขาทำได้คือการเตรียมตัวให้พร้อม ดูแลตัวเองให้ดี และทำให้ทุกคนเห็นว่าที่เขายังอยู่กับทีมได้ไม่ใช่เป็นเพราะชื่อเสียงเก่าๆ แต่เป็นเพราะเขาพยายามอย่างมากที่จะเป็นคนที่สร้างประโยชน์ให้กับทีมให้ได้

“มีคนบอกว่าเมื่อมาถึงช่วงอายุเท่าๆกับผม (ให้สัมภาษณ์ตอนอายุ 41 ปี) ความเสื่อมของร่างกายก็เกิดขึ้นตามวัฏจักร แต่ว่าก็ว่าเถอะ ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ผมแค่เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง ผมรู้สึกว่าไหวก็แสดงว่าไหว ตัวเลขอายุไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะอายุ 41 ปี และอยู่ดีๆร่างกายของคุณก็พังทลายลงไปเสียเมื่อไหร่ จริงไหม?”

ที่สุดแล้วอาชีพของ บุฟฟ่อน ยังคงดำเนินต่อไป เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของความสุขและการเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง วันใดที่เขาไม่ไหวเขาก็จะไม่อยู่เป็นภาระทีมแน่นอน แต่ทุกวันนี้ความเชื่อของเขายังคงเหมือนเดิม ฟุตบอลคือชีวิต คือความเอนเตอร์เทน และเขายังคงหลงใหลในการเป็นผู้ชนะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

และนี่คือช่วงชีวิตทั้ง 3 ช่วงที่ถูกบันทึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลของ 1 ในผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้ที่เป็นของจริงแบบปฏิเสธไม่ได้

UFABETWIN

UFABETWIN “แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 1996” : จุดเปลี่ยนสำคัญหลังยุคแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้

จบลงไปแล้วสำหรับ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 ที่ท้ายที่สุด กลายเป็น เซเนกัล ที่แม่นกว่า หลังดวลจุดโทษเอาชนะ อียิปต์ ไปได้ 4-2 คว้าแชมป์สมัยแรกไปครองได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี ย้อนกลับไปเมื่อราว 20 กว่าปีก่อน ก็มีทีมที่คว้าแชมป์ครั้งแรกได้เช่นกัน นั่นคือ แอฟริกาใต้ เพียงแต่ว่าแชมป์ครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศ หลังยุคการแบ่งแยกสีผิว

เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น?

ยุคมืดของฟุตบอล

แม้จะเป็นชาติอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน แต่ในอดีต ฟุตบอลของแอฟริกาใต้ ได้แต่ซ่อนตัวอยู่หลังอิทธิพลของรักบี้ โดยเฉพาะในช่วงที่พวกเขาใช้นโยบายถือผิว นโยบายที่แบ่งแยกคนผิวขาวและคนดำออกจากในช่วงทศวรรษที่ 1940s-1990s

มันคือนโยบายหลักของพรรคแห่งชาติ พรรคการเมืองขวาจัด ที่เน้นความยิ่งใหญ่ของคนผิวขาว หลังชนะการเลือกตั้งในปี 1948 ที่ทำให้คนผิวขาวซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศถูกจัดอยู่ในสถานะสูงสุด

ขณะที่คนผิวดำ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ กลับอยู่ในลำดับต่ำสุด พวกเขาไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ของคนผิวขาวได้ รวมทั้งไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งการศึกษา พยาบาล บริการสาธารณะ และสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ในแบบเดียวกับคนผิวขาว ซึ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับคนผิวดำเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าฟุตบอลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ด้วยนโยบายถือผิว ทำให้ในตอนนั้นแอฟริกาใต้ มีสมาคมฟุตบอล 2 สมาคมที่แยกออกจากกัน นั่นคือสมาคมฟุตบอลแอฟริกาใต้ ที่ก่อตั้งโดยคนผิวขาว และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาใต้ ที่เป็นของคนผิวดำ และไม่ได้การรับรอง

ทั้งนี้ การมีสมาคมฟุตบอล 2 สมาคม ก็ทำให้พวกเขามีปัญหา เพราะแม้ว่า จะได้เป็นตัวแทนของฟีฟ่า ร่วมกับ เอธิโอเปีย อียิปต์ และซูดาน ในการก่อตั้งสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา เมื่อปี 1956 แต่ด้วยความที่พวกเขายืนยันที่จะส่งทีมที่มีผู้เล่นผิวขาวล้วนลงแข่งใน แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งแรก ทำให้ แอฟริกาใต้ ถูกแบนออกจากการแข่งขันของปี 1957

นอกจากนี้ในปี 1958 แอฟริกาใต้ยังถูกขับออกจาก ก่อนถูกฟีฟ่าแบนในปี 1961 อันเนื่องมาจากนโยบายแบ่งแยกสีผิว แม้ว่าฟีฟ่าจะปลดแบนชั่วคราวเมื่อปี 1963 แต่สุดท้ายแอฟริกาใต้ก็ถูกแบนยาวตั้งแต่ปี 1964 ก่อนจะถูกขับออกจากฟีฟ่าในปี 1976 จากการกระทำที่โหดร้ายในเหตุการณ์ “การประท้วงที่โซเวโต” การประท้วงของนักเรียนที่มีคนผิวดำเสียชีวิตกว่าหลายร้อยคน

หลังจากนั้น พวกเขาก็อยู่ในสภาวะไร้ทั้งสมาคม ไร้ทั้งทีมชาติ บวกกับความที่ฟุตบอลเป็นกีฬาของคนผิวดำอยู่แล้ว ทำให้รัฐปล่อยปะละเลย และทำให้ชื่อของ แอฟริกาใต้ หลุดไปจากวงโคจรของการแข่งขันระดับนานาชาติกว่า 15 ปี

จนกระทั่งการเป็นอิสระของชายคนหนึ่งก็ทำให้วงการฟุตบอลมีความหวัง รวมไปถึงคนผิวดำในประเทศ ชื่อของเขาคือ “เนลสัน แมนเดลา” หรือที่คนแอฟริกาใต้เรียกว่า “มาดิบา”

บุรุษผู้ใช้กีฬาเป็นสื่อ

เนลสัน แมนเดลา คือชายผิวดำ ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับไม่ใช่มนุษย์ของคนผิวขาว เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา และเป็นแกนนำประท้วงนโยบายถือผิว ก่อนขึ้นมาเป็นผู้นำของกองกำลังติดอาวุธที่ชื่อว่า หรือ หอกแห่งชาติ ในภาษาซูลู (ภาษาของชนเผ่าหนึ่งในแอฟริกาใต้) ในปี 1961

UFABETWIN

 

ทว่า หลังจากเคลื่อนไหวได้ไม่นาน แมนเดลา ก็ถูกจับกุมในปี 1964 ก่อนจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และถูกส่งไปยังเกาะร็อบเบน รวมทั้งทางการยังสั่งห้ามเผยแพร่ภาพถ่ายของเขา รวมถึงการอ้างอิงคำพูดของเขาในที่สาธารณะซึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ในตอนนั้น นานาชาติพยายามเรียกร้องให้แอฟริกาใต้ปล่อยตัวเขา รวมทั้งมีการแต่งเพลงและจัดคอนเสิร์ตเพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้แก่เขา แต่ด้วยความที่ชาติมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ไม่ยอมรับในการเคลื่อนไหวของแมนเดลา แถมยังโจมตีเขาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่คุมขังเป็นเวลาเกือบ 30 ปี

จนกระทั่งการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในปี 1989 ทำให้เกิดการเรียกร้องเสรีภาพ และความเท่าเทียมกันทางสีผิวไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 1990s ที่สุดแล้ว แมนเดลา จึงถูกปล่อยตัวออกมาในปี 1991

3 ปี หลังจากนั้น แอฟริกาใต้ ก็ได้จัดการเลือกตั้งที่คนผิวดำมีสิทธิ์ออกเสียงได้เท่าเทียมกับคนผิวขาวเป็นครั้งแรก และทำให้ แมนเดลา ได้รับเลือกขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ ในปี 1994

อย่างไรก็ดี แม้ว่านโยบายถือผิวจะสลายไปตั้งแต่ปี 1991 แต่ผลพวงของมันยังคงส่งผลกระทบมาจนถึงตอนนั้น เมื่อคนดำยังคงเกลียดคนผิวขาว ส่วนคนผิวขาวก็มีอคติต่อคนดำ ทำให้งานหลักของแมนเดลา คือการหล่อหลอมคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียว

เขาเลือกที่จะใช้กีฬาเป็นสื่อ โดยเริ่มจากรักบี้ กีฬายอดนิยมของคนผิวขาว และสัญลักษณ์ของการกดขี่ แมนเดลา เข้ามาปฏิวัติกีฬาชนิดนี้ใหม่ ด้วยการเปลี่ยนทั้งโลโก้และสีประจำทีม และประกาศว่าเขาจะสนับสนุนรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ ที่จะลงแข่งรักบี้ชิงแชมป์โลกในปี 1995

“เรามีสุดยอดผู้นำที่มองเห็นว่ากีฬาชนิดนี้สำคัญกับคนผิวขาวในแอฟริกาใต้มากแค่ไหน เขาได้รับความเคารพและความเชื่อใจจากพวกเราเพราะเรื่องนี้” ฟรองซัวส์ พีนาร์ กัปตันทีมรักบี้แอฟริกาใต้ในตอนนั้นกล่าว

“แต่อีกด้าน ผมเคารพแมนเดลากับสิ่งที่เขาทำ เพราะทีมสปริงบอกส์คือสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกสีผิว ชาวแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่ไม่เคยสนับสนุนรักบี้ทีมชาติตัวเอง เพราะฉะนั้น การขอให้พวกเขาหันกลับมาเชียร์ทีมของเรา คือเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน”

และมันก็ได้ผล เมื่อท้ายที่สุดแอฟริกาใต้เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้ หลังเอาชนะนิวซีแลนด์ ในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นแชมป์โลกครั้งแรกของพวกเขา แต่ที่สำคัญมันคือหมุดหมาย ที่ทำให้เห็นว่าคนที่มีสีผิวแตกต่างกัน สามารถร่วมเชียร์ทีมชาติไปด้วยกันได้

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ทัวร์นาเมนต์แห่งความเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าการคว้าแชมป์ของแอฟริกาใต้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนผิวขาวและคนผิวดำเริ่มเปิดใจ แต่แนวคิดเรื่องการแบ่งแยกสีผิว ก็ยังไม่ได้หายไปในทันที อันเนื่องมาจากการฝังรากลึกจากนโยบายถือผิวที่กัดกินประเทศมานานหลายสิบปี

โดยเฉพาะฟุตบอล ที่ถูกมองว่าเป็นกีฬาของคนผิวดำ และไม่ได้รับความสนใจจากคนผิวขาวมากนัก แถมผลงานในช่วงแรก หลังก่อตั้งสมาคมขึ้นมาใหม่ในปี 1991 ยังไม่น่าประทับใจ ทั้งตกรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 1994 และฟุตบอลโลกในปีเดียวกัน

จนกระทั่งในปี 1996 วงการฟุตบอลก็เริ่มมีความหวัง เมื่อแอฟริกาใต้ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แทนที่ เคนยา ที่ถอนตัวไป แมนเดลา จึงหมายมั่นปั้นมือที่จะใช้รายการนี้เป็นที่รวมใจคนในชาติ เหมือนกับที่ทีมรักบี้เคยทำได้

“นั่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราพูดถึง” นีล โทเวย์ อดีตกองหลังกัปตันทีมแอฟริกาใต้ในตอนนั้นกล่าวกับ BBC

“เรารู้ว่าหน้าที่ของเราคือการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนในชาติของเราได้รวมกัน และมาดิบารู้ว่าถ้าเราทำได้ดี ก็จะทำให้คนในประเทศสามัคคีขึ้น”

“พูดก็พูดเถอะนะ ความปิติยินดีต่อชัยชนะของทีมรักบี้มันเป็นเพียงแค่ 10 เปอร์เซนต์เท่านั้นของสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเราประสบความสำเร็จได้แบบเดียวกับพวกเขา”

ก่อนลงสนามนัดแรก แมนเดลา เอาฤกษ์เอาชัย ด้วยการไปเยี่ยมทีมชาติแอฟริกาใต้ถึงค่ายเก็บตัว ในตอนนั้นเขาเป็นเหมือนพระเจ้าของประเทศ ที่ช่วยเสริมสร้างกำลังชั้นดีให้แก่ผู้ที่ได้พบเจอ

“พอเราโตขึ้น เราก็ไม่รู้จักหน้าของเขา เรามีแต่รูปเก่าๆของเขา ตอนเขายังหนุ่ม แต่เมื่อเขามาหาเราที่ค่ายเก็บตัว มันคือ เขามีออรา เราไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา” ลูคัส ราเดเบ ย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

“วันนั้นถ้าเราต้องเจอบราซิล เราก็น่าจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ สิ่งนี้บอกได้ว่าเราได้แรงบันดาลใจมากขนาดไหน การปรากฏตัวของเขาทำให้เราอยู่ในระดับสูงสุด ในทุกเกมที่เราเล่น เราเล่นเพื่อมาดิบา และแอฟริกาใต้”

แน่นอนว่ามันก็ได้ผลไม่น้อย กำลังใจจากแมนเดลา ทำให้ แอฟริกาใต้ ประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการไล่ถล่มแคเมอรูนไปถึง 3-0 ก่อนจะเฉือนชนะแองโกลา 1-0 ในนัดต่อมา แม้นัดสุดท้ายจะพ่ายต่ออียิปต์ แต่มันก็ยังดีพอที่ทำให้พวกเขาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม

“จนถึงทุกวันนี้ แค่พูดเรื่องของยอดคนอย่างแมนเดลา ก็ทำให้ผมขนลุกแล้ว” ฌอน บาร์ตเล็ตต์ ย้อนความหลัง

“ทุกครั้งที่ผมเจอเขา จับมือกัน มันเหมือนเขาส่งต่ออะไรบางอย่างมาให้คุณ”

อย่างไรก็ดี ความยอดเยี่ยมของแอฟริกาใต้ ไม่ได้เกิดจากแรงใจเท่านั้น เพราะก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น พวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี ภายใต้การทำทีมของบาร์เกอร์ด้วยสถิติไร้พ่ายถึง 13 นัด รวมถึงการเสมอทีมระดับโลกอย่าง อาร์เจนตินา และ เยอรมนี

นอกจากนี้ พวกเขายังอุดมไปด้วยนักเตะที่มีประสบการณ์ในยุโรป ทั้ง ราเดเบ และ ฟิล มาซิงกา ที่เล่นให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด, มาร์ค วิลเลียมส์ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส หรือ มาร์ค ฟิช ที่กำลังมีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะไปเซ็นสัญญากับ ลาซิโอ และย้ายมา โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในเวลาต่อมา

“เขา (บาร์เกอร์) ค้นพบศักยภาพของนักเตะแต่ละคนของเรา และปล่อยให้พวกเราทำในสิ่งที่พวกเราทำได้ดี” โทเวย์ กล่าว

สร้างประวัติศาสตร์

ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แอฟริกาใต้ยังคงฟอร์มแรง หลังเฉือนเอาชนะแอลจีเรียไปได้อย่างหวุดหวิด จากประตูชัยของ จอห์น ‘ชูส์’ โมชู ในนาทีที่ 86 ช่วยให้ทีมทะลุเข้าไปในรอบรองชนะเลิศ เพื่อพบกับกานา เจ้าของฉายา “บราซิลแห่งแอฟริกา”

ในตอนนั้น กานา คือทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์ และเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร แถมยังเต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นนำ ทั้ง ซามูเอล คูฟฟูร์ ของ บาเยิร์น มิวนิค, อเบดี เปเล กองกลางของ โตริโน (พ่อของ อังเดร และ จอร์แดน อายิว) และ โทนี เยบัวห์ ดาวยิงอันตรายของลีดส์

แต่สุดท้ายกลายเป็นแอฟริกาใต้ ที่เล่นได้ดีกว่า ไล่ถล่มไปอย่างยับเยิน 3-0 จากสองประตูของ โมชู ในนาทีที่ 22 และ 87 ส่วนอีกประตูมาจาก บาร์ตเล็ตต์ ในนาทีที่ 46 ทะลุผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

“เกมกับกานา น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่เราทำผลงานได้ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา” โทเวย์

“ราเดเบ กับ เยบัวห์ ดวลกันอย่างดุเดือด แต่ทุกพื้นที่ในสนาม เราชนะการดวลตัวต่อตัวได้หมด”

อย่างไรก็ดี ชัยชนะของพวกเขาในรอบรองชนะเลิศ ไม่เพียงแต่กลายเป็นข่าวพาดหัวตัวโตบนหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่มันยังทำให้อคติที่มีต่อฟุตบอลของคนผิวขาวเริ่มจางลงไปอีกด้วย

“ตอนที่แอฟริกาใต้เอาชนะกานา คนที่อยู่ในย่านคนผิวขาว ต่างหลั่งไหลเข้ามาดูฟุตบอล ในจำนวนที่ไม่เคยเห็นมาเป็น 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นเกมระดับท้องถิ่น หรือเกมระดับทวีป” หนังสือพิมพ์สายเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้ระบุ

ก่อนที่วันดีเดย์ของพวกเขาจะมาถึง มันคือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1996 ในวันนั้นผู้ชมกว่า 80,000 คน รวมถึงแมนเดลา ที่สวมเสื้อทีมชาติแอฟริกาใต้ ที่ปักหมายเลข 9 ของ โทเวย์ รวมไปถึง กูดเวล สเวเลตินี กษัตริย์แห่งซูลู และ เปเล่ ต่างเข้ามาเป็นสักขีพยานในสนามซ็อคเกอร์ซิตี้ ถึง 3 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน

คู่ต่อกรของ แอฟริกาใต้ คือ ตูนีเซีย ที่เอาชนะ ซาอีร์ (ดีอาร์ คองโก ปัจจุบัน) ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย แต่หลังจากเริ่มเขี่ยลูก โอกาสเดียวใน 45 นาทีแรก คือลูกยิงของ บาร์ตเล็ตต์ ที่ถูกผู้รักษาประตูของตูนีเซียปัดข้ามคานไปได้ หลังเกมส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กลางสนาม

อย่างไรก็ดี ครึ่งหลังก็เป็นแฟนบอลแอฟริกาใต้ ที่ได้เฮ เมื่อ วิลเลียมส์ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน มาซิงกา แผลงฤทธิ์ ด้วยการโหม่งไม่กี่หลาหน้าปากประตูให้แอฟริกาใต้ออกนำ 1-0

 

UFABETWIN

แม้ว่าหลังจากนั้น ตูนีเซีย พยายามเปิดเกมแลก แต่ในอีก 2 นาทีต่อมา เจ้าบ้านก็มาได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะยิงด้วยซ้ายของ วิลเลียมส์ คนเดิม ก่อนที่มันจะกลายเป็นประตูปิดกล่อง ช่วยให้แอฟริกาใต้ คว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

“ผมยังจำได้ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ในประเทศของเรา เท้าของทุกคนแทบไม่ได้แตะพื้น” ราเดเบ

“คุณสามารถได้ยินเสียงจากโซเวโต ไม่ใช่แค่ในสนาม แฟนนอกสนามในเมืองต่างร้องไห้ และตะโกนดังลั่น”

“มันเหลือเชื่อมาก ผมคิดว่านี่แหละ ความภาคภูมิใจของชาติเรา”

และสิ่งนี้ก็ช่วยขับเคลื่อนประเทศให้เดินต่อไป

มรดกที่ส่งต่อ

“กีฬามีพลังที่จะเปลี่ยนโลก มันมีพลังที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ มันมีพลังในการรวมผู้คนในแบบที่สิ่งอื่นทำไม่ได้” แมนเดลา เคยกล่าวเอาไว้

“กีฬาสามารถสร้างความหวัง ในที่ที่มีแต่ความสิ้นหวัง มันมีพลังมากกว่ารัฐบาลในการทำลายกำแพงทางเชื้อชาติ”

และคำกล่าวของเขาก็ได้รับการยืนยันเป็นอย่างดี หลังแอฟริกาใต้สามารถคว้าแชมป์ระดับทวีป โดย จอห์น โมชู รองดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ บอกว่าเขาถึงกับร้องไห้ เมื่อมีแฟนบอลผิวขาวคนหนึ่งเข้ามาขอลายเซ็นเขา ขณะที่ราเดเบ ก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังเกมวันนั้น

“การได้ยินคนผิวขาวพูดว่า ‘คุณคือฮีโร่ของผม’ สะเทือนใจผมมาก เพราะว่าผมจำได้ว่าเราต้องผ่านอะไรมาบ้างตลอดหลายปี นี่คือแอฟริกาใต้ยุคใหม่” อดีตกองหลังลีดส์

“จิตใจของเราสดใสขึ้น ตาของเราเห็นบางสิ่งมากกว่าสิ่งที่เราเคยเห็นมาก่อน มันจับใจอย่างสมบูรณ์ เพียงเพราะฟุตบอล”

ส่วนโทเวย์บอกว่า ความเปลี่ยนแปลง ทำให้เขารู้สึกดีใจยิ่งกว่าการคว้าแชมป์เสียอีก เมื่อมันทำให้ทำให้อคติและการแบ่งแยกค่อยๆเลือนหายไป

“ตอนนี้มีคนผิวขาวมาดูฟุตบอลสนามมากขึ้น ทั้งเกมของทีมใหญ่และทีมชาติ การสนับสนุนเติบโตขึ้น และมากยิ่งขึ้นไปจากกลุ่มหลากหลายเชื้อชาติ”

“มันยิ่งใหญ่มาก สิ่งที่เราทำกับประเทศ ราว 10-12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสนใจรักบี้ แต่ฟุตบอลมันเป็น 90-95 เปอร์เซ็นต์ แม้กระทั่งชาวนาคนผิวขาวยังรู้จัก บาฟานา บาฟานา ในตอนนี้”

“แต่มันไม่ได้ด้อยค่าสิ่งที่นักรักบี้ทำให้แก่ประเทศ พวกเขาคือกลุ่มแรกที่ทำได้ในปี 1995 พวกเขาทำมันอย่างมหัศจรรย์”

ขณะเดียวกัน หลังปี 1996 แอฟริกาใต้ ยังคงมีผลงานที่โดดเด่น เมื่อสามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในปี 1998 และอีกครั้งในปี 2002 รวมถึงรองแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ อีก 2 ครั้งในปี 1998 และ 2000 ก่อนที่ในปี 2004 พวกเขาจะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งถือเป็นชาติแรกของทวีปแอฟริกา

พวกเขาจึงมองว่าการคว้าแชมป์เมื่อปี 1996 จึงไม่ใช่แค่การสร้างประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่คือหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ประเทศของพวกเขา ก้าวเข้าสู่สังคมยุคใหม่อย่างแท้จริง

“ผู้คนอาจไม่ตระหนักว่า ฟุตบอลได้ทำลายกำแพงมากกว่าสิ่งที่นักการเมืองทำเสียอีก ฟุตบอลได้เริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆมาตั้งแต่ยุค 70s เรากำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยฟุตบอล กีฬานี่แหละ นำพาความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมาสู่แอฟริกาใต้” คลิฟ บาร์เกอร์

แน่นอน สิ่งนี้อาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ หากไม่มีชายที่ชื่อ “เนลสัน แมนเดลา”

“ในฐานะนักกีฬา คุณแค่ทำงานของคุณ แต่ตลอด 26 ปี ทุกครั้งที่ผมนึกถึงตอนที่ได้พบกับเขา ผมรู้สึกว่ามันพิเศษมาก มันพิเศษมากจริงๆ ” โทเวย์ ซึ่งเป็นผู้รับถ้วยแชมป์จากมือของแมนเดลาย้อความหลัง

“รูปถ่ายยังคงอยู่บนฝาผนังในบาร์ของผม มันคือบันทึกประวัติศาสตร์”

“เราคงไม่มีทางไปถึงจุดนั้น ถ้าเขาไม่ได้ออกมาจากเรือนจำ และพาเรากลับไปสู่ฟุตบอลระดับนานาชาติ”

UFABETWIN

UFABETWIN ยิงกันสนั่น 7 ตุง “เปแอสเช” เบียดเฉือน “ทรัวส์” นำฝูงลีกเอิง หนีล็องส์ 5 แต้ม

UFABETWIN ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

UFABETWIN  เรียงหน้ายิงไม่ซ้ำหน้า เปิดบ้านเบียดชนะ ทรัวส์ ศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส

การแข่งขันฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2022-23 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 65 คู่ที่น่าสนใจ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมจ่าฝูง เปิดสนามปาร์ค เดส์ แพรงซ์ รับการมาเยือนของ ทรัวส์ อันดับ 11 ของตาราง

ผลปรากฏว่า เปแอสเช เอาชนะ ทรัวส์ ไป 4-3 โดย เปแอสเช ได้ประตูจาก คาร์ลอส โซเลร์ นาทีที่ 24, ลิโอเนล เมสซี

นาทีที่ 55, เนย์มาร์ นาทีที่ 62 และ คีเลียน เอ็มบัปเป นาทีที่ 76 ส่วน ทรัวส์ ได้จาก บัลเด 2 ลูก นาทีที่ 3 กับ 52 และ ปาลาเวอร์ซา นาทีที่ 88

ทั้งนี้ จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เปแอสเช เก็บเพิ่มเป็น 35 คะแนน หนี ล็องส์ อันดับ 2 ไปเป็น 5 คะแนน

กุนซือหงส์แดงกังวล ในเรื่องฟอร์ม การเล่นที่ไม่ สม่ำเสมอ และจำเป็นต้องแก้เรื่องนี้ให้ได้เสียก่อน มากกว่าจะ ห่วงเรื่อง การไม่ได้เล่น UCL ในฤดูกาลหน้า

เยอร์เกน คล็อปป์ เฮดโค้ชลิเวอร์พูล ชี้ว่าทีม ของเขา ต้องแก้เรื่อง ฟอร์มการเล่นที่ ไม่สม่ำเสมอ และเก็บ

ชัยชนะให้ ได้อย่างต่อ เนื่องเสียก่อน ถึงจะตอบคำถาม สื่อเกี่ยวกับ โอกาส ลุ้นโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า

UFABETWIN

ทีมหงส์แดง เพิ่งพ่าย แพ้เป็น 4

ของฤดูกาลในเกม ลีกต่อลีดส์ ยูไนเต็ด คารังแอนฟิลด์ ของตัวเอง 2-1 ส่งผลให้ พวกเขาอยู่ ในอันดับที่ 9 โดยมีแต้มตามหลัง นิวคาสเซิล ซึ่งอยู่อันดับ 4 ถึง 8 คะแนน

อย่างไรก็ดี กุนซือชาวเ ยอรมันคิด ว่าโอกาสลุ้น ไปเล่นใน ฟุตบอลยุโรป ถ้วยใหญ่ ยังไม่ใช่ เรื่องหลักที่เขา กังวลในตอนนี้

“มันไม่ใช่เรื่อง หลักที่ผมกังวล มันยังมี อีกหลายเรื่อง ให้ต้องกังวล มากกว่า แต่แน่นอน ว่าผมไม่ได้ โง่ขนาดที่จะไม่ รู้เกี่ยวกับ ระยะห่าง และใครอยู่บนนั้นบ้าง” คล็อปป์กล่าว

“แต่เราผ่าน ไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ได้หรอก ถ้าเรา เล่นได้ ไม่สม่ำเสมอ อย่างที่เรา เป็นอยู่ใน ตอนนี้ เราต้องแก้ ในเรื่อง นั้นก่อน แล้วเราค่อยมา ดูกันว่าเรา จะจบลงที่ตรงไหน

“เรารู้ว่าทุก อย่างเป็น ไปได้ หรือยังมี อีกหลาย อย่างเป็นไปได้ แต่เพื่อ สิ่งนั้น เราต้องชนะ ในเกมฟุตบอล ให้ได้เสียก่อน และเรายัง ทำแบบนั้น ได้ไม่บ่อยมากพอ”

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มถ้วยยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในกลุ่มอี พบกับ เรอัล โซเซียดาด (สเปน), UFABETWIN

เชริฟฟ์ ติราสปอล (มอลโดวา) และ โอโมเนีย นิโคเซีย (ไซปรัส) โดยทาง beIN SPORTS เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดยูโรป้า ลีก

อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งสามารถรับชมได้ทั้งทาง beIN SPORTS CONNECT, TrueVisions และ AIS PLAY

UFABETWIN ปัญหาสุดคลาสสิก : “แชนเซล เอ็มเบ็มบา” ยอดแข้งคองโกผู้มีวันเกิด 4 วัน

“ผู้คนก็เป็นแบบนี้ พอเห็นนักเตะแอฟริกันผลงานดีเข้าหน่อย พวกเขาก็หาเรื่องดูถูกทำให้คนๆนั้นตกต่ำจนได้.. ผม แชนเซล เอ็มเบ็มบา เกิดวันที่ 4 สิงหาคม ปี 1994 โอเคนะ ได้โปรดรับรู้เอาไว้ด้วย”

ประโยคดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่มีข่าวว่า นักเตะทีมชาติดีอาร์ คองโก ผู้เล่นของ เอฟซี ปอร์โต้ ทีมดังในประเทศโกงอายุ หลังมีการค้นพบเอกสารที่แจ้งวันเกิดที่แตกต่างกันถึง 4 วัน และมีการโกงอายุไปทั้งหมดรวม 6 ปี

นี่คือปัญหาสุดคลาสสิกสำหรับเหล่านักเตะแอฟริกัน ทำไมพวกเขาจึงมีข่าวลือแบบนี้บ่อยนัก? และจริงๆแล้ว แชนเซล เอ็มเบ็มบา อายุเท่าไหร่กันแน่?

บุรุษผู้มีวันเกิด 4 วัน

หากคุณเป็นคนที่ดูฟุตบอลมานานพอสมควร คุณน่าจะได้รู้จักชื่อของ แชนเซล เอ็มเบ็มบา อยู่บ้าง เพราะเดิมทีเขาเคยลงเล่นในระดับพรีเมียร์ลีกกับทีมอย่าง นิวคาสเซิล เมื่อปี 2015-2018

ตัวของ แชนเซล เอ็มเบ็มบา นั้นเป็นนักเตะตำแหน่งวิงแบ็ก สไตล์แอฟริกันขนานแท้ ตัวใหญ่ แข็งแรง เข้าปะทะหนัก และมีความเร็ววิ่งขึ้นวิ่งลงได้ทั้งวัน เพียงแต่ช่วงที่เล่นในพรีเมียร์ลีกเขาอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายนัก เพราะ ณ เวลานั้นเขายังเป็นพ่อหนุ่มวัย 20 ปีที่ขาดประสบการณ์ในเกมระดับสูง และยังคงมีปัญหาเรื่องของการปรับตัวและความเข้าใจเกมฟุตบอลอังกฤษ

ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ สำหรับนักเตะที่อายุยังน้อย ประสบการณ์และความเข้าใจเกมสามารถเพิ่มเติมได้ด้วยโอกาสการลงสนามที่มากพอ เพียงแต่ว่าสำหรับ เอ็มเบ็มบา มันไม่เป็นเช่นนั้น

หากอิงตามสถิติการลงเล่นตั้งแต่ปี 2013 หรือเทียบเท่ากับตอนที่เขาอายุ 18 ปีจนถึงปัจจุบัน เขาผ่านเกมมามากกว่า 200 นัดแล้ว แต่พัฒนาการของเขาก็ไม่ชัดเจนพอจะพูดว่าดีได้เต็มปาก สิ่งเหล่านี้มันดันไปสัมพันธ์กับสมัยที่เขาเริ่มเล่นฟุตบอลในยุโรปเป็นครั้งแรกกับสโมสรอันเดอร์เลชท์ ในเบลเยียม เมื่อปี 2013 เพราะตอนนั้นเขามีปัญหาเรื่องเอกสารยืนยันตัวตนที่ไม่สามารถระบุอายุที่แน่นอนได้

ย้อนกลับไปในวันที่ เอ็มเบ็มบา ย้ายจากสโมสรท้องถิ่นใน ดีอาร์ คองโก ประเทศบ้านเกิดของเขาอย่าง มาอยู่กับทีมระดับเยาวชนของอันเดอร์เลชท์ สำนักข่าวดังอย่าง เคยเล่นข่าวว่า ตามที่มีการค้นเอกสารส่วนตัวของ เอ็มเบ็มบา นักเตะที่บอกว่าตัวเองอายุ 17 ปี มีความคลุมเครือเป็นอย่างมากสำหรับอายุที่แท้จริงของเขา เพราะยิ่งมีการค้นเอกสารก็พบว่าเขาระบุวันเกิดของตัวเองไม่ซ้ำกันถึง 4 ครั้ง

 

UFABETWIN

สิ่งเหล่านี้หมายความว่าเอกสารแต่ละฉบับที่ เอ็มเบ็มบา เซ็นรับรองว่าเป็นเอกสารจริง มีวันเกิดและปีเกิดที่ไม่ตรงกัน โดยปีที่เขาระบุผิดคือ 1988, 1990, 1991 และ 1994

สิ่งที่ เอ็มเบ็มบา พยายามพิสูจน์เพื่อลบข้อสันนิษฐานว่าเขาโกงอายุคือ การตรวจมวลกระดูก ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อวิเคราะห์จากค่ามวลร่างกายต่างๆ และหาคำตอบว่าคนที่เขารับการตรวจนี้มีอายุเท่าไหร่กันแน่

ซึ่งตอนปี 2013 ที่เขาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับอันเดอร์เลชท์ มวลกระดูกของ เอ็มเบ็มบา ผ่านฉลุย และจากนั้นเรื่องราวการโกงอายุของเขาก็เงียบไปสักพัก จนกระทั่งอีก 2 ปีต่อมา ข่าวการโกงอายุของ เอ็มเบ็มบา กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งในวันที่ นิวคาสเซิล ต้องการนักเตะชาวดีอาร์ คองโก รายนี้ไปร่วมทีม

ทำไมวันเกิดของเขาถึงเยอะขนาดนั้น?

แม้จะรอดไปแล้ว 1 ครั้งสมัยเทิร์นโปรกับอันเดอร์เลชท์ แต่กับนิวคาสเซิลมันดูจะเป็นเรื่องเป็นราวกว่าพอสมควร เพราะตอนนี้มันคือทีมที่ดังกว่าและจะได้ลงเล่นในลีกที่ใหญ่ขึ้น ยิ่งประกอบกับสื่ออังกฤษที่เป็นพวกชอบขี้แซะขี้แซวและขี้สงสัย มันเลยทำให้เรื่องราวข่าวโกงอายุของ เอ็มเบ็มบา กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง

ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2015 ด้วยความซนของสื่ออังกฤษ พวกเขาอ้างว่าได้รับข่าวคราวจากชายนิรนามที่ทำงานอยู่ในสหพันธ์ฟุตบอลดีอาร์ คองโก ว่าแท้จริงแล้ว เอ็มเบ็มบา เปลี่ยนวันเดือนปีเกิดของเขาจากที่เกิดในปี 1988 กลายเป็นปี 1991

แต่ที่โป๊ะยิ่งกว่านั้นคือ เอ็มเบ็มบา เซ็นสัญญากับ นิวคาสเซิล ด้วยการยืนยันตัวเองว่าเขาเกิดในปี 1994 หากข่าวลือดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ก็เรียกได้ว่าเขาลดอายุตัวเองลงไปอีก 3 ปีจากตอนที่เล่นให้กับอันเดอร์เลชท์เลยทีเดียว

ความสงสัยนี้ทำให้สื่ออย่าง ถึงกับต้องตามสัมภาษณ์ เอ็มเบ็มบา จนกระทั่งเจ้าตัวต้องเข้ารับการตรวจมวลกระดูกอีกครั้ง ซึ่งหนนี้ก็เหมือนเดิม เขาผ่านฉลุย.. อย่างไรก็ตาม นั่นแค่ในเอกสาร เพราะหลายคนก็ยังเชื่ออยู่ว่า “ยังไงก็โกงอายุ” เพราะปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับนักเตะแอฟริกันพันธุ์แท้ (เกิดและโตในทวีปแอฟริกา) หลายๆคน เรียกว่าเป็นภาพจำของแฟนบอลส่วนใหญ่ที่มีต่อนักเตะแอฟริกันก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งเรื่องนี้ เอ็มเบ็มบา ก็ฉุนกับการพยายามดิสเครดิตเขาไม่น้อย

“ผมไปตรวจกระดูกและมวลร่างกายแล้ว และก็อย่างที่หลายคนรู้ว่าผลลัพธ์มันก็บอกว่าผมอายุเท่าไหร่” เอ็มเบ็มบา กล่าวเมื่อปี 2015

“ผมแค่อยากออกไปเล่นฟุตบอล ไม่มีข้อมูลไหนผิดหรือขี้โกงแน่นอน หลายคนพูดเยอะเหลือเกินเรื่องวันและปีเกิดของผม แต่ผมว่าผมพิสูจน์ตัวเองจนใสสะอาดแล้วนะ ใครก็ตามที่รู้จัก แชนเซล เอ็มเบ็มบา พวกเขาจะรู้แน่ว่าผมคือคนที่เกิดในปี 1994 นี่แหละใจความของเรื่องทั้งหมด เข้าใจป่ะ?”

โอเคล่ะ เขาพิสูจน์ตัวเองแล้วด้วยผลพิสูจน์ทางการแพทย์ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยตรวจมวลร่างกายและกระดูกก่อนจะได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเขาอายุ 25 ปี ทั้งๆที่จริงๆเขาอายุ 35 ปีแล้ว.. ที่กล่าวมาไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดและยุแยง แต่การตรวจสอบมันน่าจะเป็นเรื่องของการยืนยันความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่าการมาจับโกหกใคร

เอ็มเบ็มบา เล่นให้ นิวคาสเซิล ไป 3 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไป เอฟซี ปอร์โต้ ในปี 2018 และอยู่เป็นตัวหลักของทีมจนกระทั่งมาถึงฤดูกาล 2021-22 นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สัญญาของเขาเหลืออีก 6 เดือน

เอ็มเบ็มบา เป็นตัวหลักของ ปอร์โต้ พาทีมคว้าแชมป์ 3 รายการจาก 3 ซีซั่น ลงเล่นมากกว่า 120 เกม และอายุ 27 ปี.. หากพิจารณาจากทั้งหมดที่กล่าวมา เขาควรจะเป็นนักเตะที่ ปอร์โต้ ควรเสนอสัญญาให้อย่างไว เพราะนอกจากจะเป็นตัวหลักประสบการณ์สูงแล้ว อายุการใช้งานยังเหลืออีกไม่น้อยกว่า 5 ปี.. ดูยังไงก็คุ้ม

เพียงแต่ว่าผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้าม ปอร์โต้ ไม่ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขา ไม่ใช่เหตุผลจากข้อเรียกร้องค่าเหนื่อยที่สูงไป แต่เป็นเพราะสโมสรไม่แน่ใจว่าเขาเกิดปีไหนกันแน่ จากเรื่องที่ข้อมูลปีเกิดที่ไม่ตรงกันถึง 4 ครั้ง และถ้าข้อมูลที่บอกว่าเขาเกิดในปี 1988 เป็นเรื่องจริง เอ็มเบ็มบา จะอายุ 33 ปี และการต่อสัญญา 4-5 ปี สำหรับนักเตะวัยนี้ ถือเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดเท่าไหร่นัก ความสงสัยทั้งหมดนี้ทำให้มีข่าวว่าที่สุดแล้ว ปอร์โต้ บอกว่าหลังจากจบซีซั่นนี้ เอ็มเบ็มบา จะเป็นอิสระ สามารถย้ายทีมได้ฟรีตามที่ใจของเขาต้องการ

ทั้งๆที่ตรวจมวลกระดูกก็แล้ว ทำไม ปอร์โต้ ยังคงสงสัยในเรื่องอายุของเขาอีก?.. เหตุผลต้องย้อนกลับไปในช่วงที่เขากำลังจะเซ็นสัญญากับ นิวคาสเซิล ที่เขาบอกว่าตัวเองเกิดปี 1994 ทั้งๆที่สมัยที่เขาอยู่กับ อันเดอร์เลชต์ ก็เคยบอกเองว่าเขาเกิดในปี 1990 ทีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารแล้ว แม้กระทั่งคำพูดจากปากเจ้าตัวก็ยังไม่ตรงกัน นั่นคือสาเหตุที่ทำไม ปอร์โต้ จึงไม่กล้ายื่นสัญญาให้กับนักเตะตัวหลักของทีม หรือแม้กระทั่งทีมที่เคยเลียบๆเคียงๆตามจีบอย่าง เอซี มิลาน ก็พร้อมจะถอยเหมือนกันเมื่อเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่

จนถึงตอนนี้อายุของ เอ็มเบ็มบา ก็ยังเป็นปริศนา แต่ที่แน่ชัดคือมันทำให้ ปอร์โต้ ไม่อยากต่อสัญญากับเขาแล้ว.. เรื่องนี้น่าเห็นใจ เพราะถ้าหาก เอ็มเบ็มบา เกิดในปี 1994 จริง เท่ากับว่าทุกคนใจร้ายและมองเขาในแง่ลบเกินไป

แต่หากเราจะย้อนกลับไปยังต้นตอของปัญหา เราคงต้องมาวิเคราะห์กันว่าทำไมเรื่องการโกงอายุมักจะเป็นปัญหาของนักเตะแอฟริกันบ่อยๆกันแน่?

แอฟริกากับการโกงอายุ

ทำไมนักเตะแอฟริกันมักมีปัญหากับการโกงอายุ? เรื่องนี้เราแทบไม่ต้องวิเคราะห์เองเลยด้วยซ้ำ เพราะหลายคนก็สงสัยเหมือนกัน จนกระทั่งสื่ออย่าง เคยวิเคราะห์และเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว

 

UFABETWIN

“ฝันสูงสุดของนักเตะแอฟริกันคือการได้ไปเล่นในยุโรป แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะเดินไปถึงตรงนั้นได้ นักเตะบางคนใช้เวลาเล่นในแอฟริกานานเกินไปจนอายุเกินวัยที่ทีมจากยุโรปจะมองหา ดังนั้น พวกเขาจึงต้องยอมจ่ายใต้โต๊ะเพื่อโกงเอกสารเรื่องอายุบ้าง และบางคนก็โกงมากกว่า 10 ปีเลยด้วยซ้ำ” โอลูวาชิน่า โอเคเลยี่ นักข่าวสายฟุตบอลแอฟริกันของ ว่าไว้

เหตุผลยังไม่หมดแค่นั้น เขายังกล่าวอีกว่าฟุตบอลในทวีปแอฟริกามีเรื่องการทุจริตหลุดออกมาอยู่บ่อยๆ จากการที่ผู้ใหญ่ของสมาคมฟุตบอลประเทศต่างๆหลายคนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ และการรักษาเก้าอี้ผู้บริหารของพวกเขาไว้คือการคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าในยุคของเขาทีมชาติดังกล่าวประสบความสำเร็จ

ดังนั้น การโกงอายุจึงเป็นเรื่องง่ายเพราะเป็นการรู้กันทุกๆฝ่าย พวกเขาจะเน้นไปที่บอลเด็ก หรือรุ่นยู-17, 19, 20 และ 21 หรือแม้กระทั่ง ยู-23 สำหรับฟุตบอลในรายการโอลิมปิก เพราะบอลเด็กนั้นเมื่อโกงอายุแล้วจะมีโอกาสเป็นแชมป์มากกว่านั่นเอง ในขณะที่ประเทศจากทวีปอื่นๆหรือในทวีปแอฟริกาก็ตามที่เล่นตามกฎ โดยส่งนักเตะตามอายุที่กำหนดลงแข่ง แต่มีอีกทีมหนึ่งส่งนักเตะที่โกงอายุไปถึง 10 ปีลงเล่น มันก็จะกลายเป็นการแข่งขันที่คนอายุ 29 ปีมาเจอกับเด็กอายุ 17 ปี.. พูดง่ายๆคือ การโกงอายุในรุ่นเยาวชนนั้นสามารถใช้คำว่า “ตบเด็ก” ได้อย่างเต็มปากนั่นเอง

“แรงกดดันมีมากในฟุตบอลแอฟริกาโดยเฉพาะรุ่นยู-17 และ ยู-20 โค้ชบางคนถึงกับโดนใบสั่งให้เอาผู้เล่นโกงอายุลงสนามเลยด้วยซ้ำไป” นักข่าวของ BBC ยืนยันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ขณะที่ตัวนักเตะเองก็เต็มใจเรื่องการโกงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการระดับโลกไม่ว่าจะรุ่นเยาวชนยูต่างๆตามที่ได้กล่าวไป รวมถึงในการแข่งขันโอลิมปิก เพราะนี่คือรายการที่มีคนดูพร้อมกันทั้งโลก และนั่นหมายถึงการมีแมวมองรอชมฟอร์มของพวกเขาอยู่ด้วย.. นี่คือเส้นทางลัดทีเปิดประตูสู่ยุโรปได้ง่ายที่สุด หากพวกเขาไม่โกงอายุพวกเขาอาจจะต้องเล่นในลีกบ้านเกิดเป็นสิบๆปีจนกระทั่งไม่มีใครสนใจ การโกงอายุคือสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าไม่มีใครจับได้ล่ะจะเป็นอย่างไร?

คำตอบง่ายๆคือ เมื่อพิสูจน์อายุที่แท้จริงไม่ได้ก็ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลยไปโดยปริยาย หากพวกเขาดูแลร่างกายให้ดี ใช้ความแข็งแรง แล้วไปพัฒนาตัวเองด้านทักษะ นั่นก็อาจทำให้พวกเขาได้เดินทางออกจากลีกแอฟริกาที่ค่าจ้างแสนถูกเดินทางมาโกยเงินในยุโรป หรือแม้กระทั่งในเอเชียได้สบายๆหลายปี นั่นคือเหตุผลที่นักเตะหลายคนพร้อมเสี่ยงกับการโกงเอกสารเรื่องอายุดังที่กล่าวไป

ร่ายมาถึงตรงนี้เราไม่ได้ตัดสินว่าชาวแอฟริกัน หรือ แชนเซล เอ็มเบ็มบา โกงอายุแต่อย่างใด เพียงแต่หลักฐานเก่าๆ และวีรกรรมต่างๆ ทำให้นักเตะแอฟริกันดูมีประวัติและชวนให้สงสัยกับเรื่องเหล่านี้เท่านั้น

สำหรับ เอ็มเบ็มบา ทางเดียวที่เขาจะพิสูจน์ได้จริงๆคือการไม่ต้องสนใจข่าวลือทั้งหมด เล่นให้ดี รักษาร่างกายให้แข็งแรง ทำตัวให้มีประโยชน์กับทีม และมีทัศนคติที่ดีในการเล่นฟุตบอล เพราะทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติของนักฟุตบอลที่ทีมต่างๆต้องการตัว ส่วนเรื่องอายุนั้นเป็นเพียงตัวเลข

ตราบใดที่เขายังเป็นคนสำคัญของทีมได้ ไม่มีใครสนหรอกว่าแท้จริงแล้วเขาอายุเท่าไหร่ จนกว่ามีวิธีที่จะพิสูจน์เรื่องดังกล่าวให้หายสงสัยอย่างแท้จริง

UFABETWIN

UFABETWIN มาร์ติเนลลี่ แสดงให้เห็นว่าเหตุใดการต่อสู้ของ เทรนต์ ถูกสร้างขึ้นโดยทุกคนรวมถึง คล็อปป์

UFABETWIN การพูดคุยก่อนเกมมากมายเกี่ยวกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

การต่อสู้นั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวัง อันที่จริงใช้เวลาเพียง 58 วินาทีในการแสดงว่าทำไมคนจำนวนมากถึงพูดถึงเรื่องนี้

ทุกครั้งที่อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูลเผชิญหน้ากับเจอร์เก้น คล็อปป์ มักจะร้องเพลงสรรเสริญกาเบรียล มาร์ติเนลลี และในสัปดาห์นี้ ก็ไม่ต่างกันเพราะเขาให้ทิปชาวบราซิลรายนี้ เปิดโปงเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์แบ็คขวาของเขา

ทุกคนใช้เวลาไม่ถึงนาที กว่าจะรู้ตัวว่า ถ้าพวกเขาไม่เคยโดนหักหลังมาก่อน ว่า อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในช่วงบ่าย มาร์ติน โอเดการ์ด แทงบอลได้อย่างสมบูรณ์ แบบระหว่างกองหลังทีมชาติอังกฤษและ โจเอล มาติป เพื่อนร่วมทีมของเขา เพื่อให้ มาร์ติเนลลี่ บีบลูกบอลผ่าน อลิสซง ในเป้าหมายของ ลิเวอร์พูล เพื่อส่งเอมิเรตส์ไปสู่ความปิติยินดีและ อาร์เซนอล กำลังจะไปสู่ชัยชนะครั้งสำคัญ

ตามที่คาดไว้ มิเกล อาร์เตต้าตั้งทีมของเขาเพื่อฉวยโอกาสจาก อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เปราะบาง และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่าในครึ่งแรก

การทำร้ายหงส์แดง บนเคาน์เตอร์ เป็นสิ่งที่มาร์ติเนลลี่สามารถทำได้ ตามต้องการ ในขณะที่เขาใช้ฝีเท้าอันรวดเร็วของเขา เพื่อเข้าถึงบอลก่อนที่หลุยส์ ดิแอซ ที่วิ่งเร็วมากเช่นกัน ซึ่งสะดุดชายอาร์เซนอล เพื่อรับใบเหลืองที่ชาญฉลาด

แม้จะออกสตาร์ทได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยลูกทีมของ อาร์เตต้า แต่มันเป็นช่วงเริ่มต้น 45 นาที ที่ลิเวอร์พูลดูดีขึ้น และแสดงให้เห็นว่าพวกเขา ไม่ควรถูกมองข้าม แม้จะออกสตาร์ทฤดูกาลได้ไม่สดใส

ดาร์วิน นูเนซ ดูอันตราย และเป็นศัตรูตัวฉกาจของ แอรอน แรมส์เดล ในประตู และ กาเบรียล ในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ด้วยการเพรสซิ่งของเขา

ในขณะที่ เทรนต์ เป็นผู้เล่นที่อาร์เซนอลมองหา ที่จะเปิดเผย กาเบรียล อาจเป็นคนหนึ่งที่ คล็อปป์ บอกให้ผู้เล่นกำหนดเป้าหมาย นักเตะชาวบราซิล อาจยิงจุดโทษ ให้แฮนด์บอลได้ แต่ก็ไม่ถูกให้มาเลย ก่อนที่การยิงของ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ อย่างมีความหวังจะได้รับการปกป้อง จากมือปืนอย่างไม่ดี ขณะที่ ดิแอซ วิ่งไปทางปีกขวา เพื่อยกให้ นูเนซ ซึ่งฉวยโอกาสได้ เป้าหมายที่สมควรได้รับ

แม้จะมีจำนวนบอล ที่ลิเวอร์พูลมี แต่ อาร์เซนอล และ มาร์ติเนลลี่ ก็สามารถกดดัน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และถามคำถามมากมายเมื่อทำได้

เทรนต์ สามารถสลัดอาการบาดเจ็บ ที่ข้อเท้าในช่วงท้ายเกมได้ หลังจาก มาร์ติเนลลี่ ติดตามมา แต่เขาก็ไม่สามารถปิดตัวนักเตะวัย 21 ปี เจ้าเล่ห์คนนี้ได้

อีกด้านหนึ่งของสนาม ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ทำตัวเลขกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวในครึ่งหลัง และ เบนจามิน ไวท์ ยังคงออกสตาร์ท อย่างแข็งแกร่งในการรณรงค์ในตำแหน่งแบ็คขวา โดยแสดงให้เห็นว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต สมควรได้รับ สถานที่บนเครื่องบินไปกาตาร์

อาร์เซนอลกำลังมองหาครึ่งเวลา โดยเสมอ 1-1 ลิเวอร์พูล ก็เสียโอกาสลูกตั้งเตะ และมือปืนลงโทษ พวกเขาที่เคาน์เตอร์

UFABETWIN

มาร์ติเนลลี่ เพิ่มขนาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เทรนต์ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมระหว่างกัปตันทีม เรด และ คอสตัส จิมิกาส ก่อนที่จะสูญเสียวินัยทั้งหมดโดยพยายามจัดการเรื่องนี้ด้วยมือของเขาเอง สมมติว่าชายที่บุกเข้ามาเสมอจะไม่ทำอย่างนั้น

ชาวบราซิลทำและพบว่า บูคาโย ซากะ ซุ่มอยู่ที่เสาด้านหลัง สตาร์ทีมชาติอังกฤษพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแหย่บ้านและให้อาร์เซนอลเป็นผู้นำที่ค่อนข้างไม่สมควรที่จะเข้าสู่ช่วงพัก

ครึ่งหลังผ่านไปและคล็อปป์เห็นเพียงพอแล้ว อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ถูกเปลี่ยนตัว โดยโจ โกเมซลงเล่นเป็นแบ็คขวา บางทีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าทำให้เขาต้องออกห่าง หรือบางทีคล็อปป์อาจทำในสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันและติดงอมแงมเขา

บางทีอาจเป็นส่วนผสมของทั้งสองอย่าง โดยผู้จัดการทีมชาวเยอรมันใช้การเคาะประตูเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบในการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการขาดอาการบาดเจ็บรวมกับผลงานที่ย่ำแย่ของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจส่งข้อความผิดพลาดทั้งหมดไปยังผู้เล่นและ แฟน ๆ

ความพยายามของเทรนต์ในการหยุดยั้งมาร์ติเนลลีสำหรับประตูของซาก้านั้น… ทำให้เกิดความสับสน เขาพยายามอย่างหนักเกินไปที่จะพิสูจน์ว่าเขาสามารถป้องกันได้หรือไม่? หัวของเขาหายไปแล้วเหรอ? เขาอยากเป็นฮีโร่และปิดปากทุกคนสักหน่อยไหม มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ เขาอาจจะแค่เล่นเกมรับนิดหน่อย นั่นแน่เลย

โกเมซลงสนามและจ่ายบอลให้มาร์ติเนลลี่ได้ใกล้เคียงกัน แม้ว่ากองหลังลิเวอร์พูลจะรับมือเขาอย่างโหดเหี้ยมอีกเล็กน้อย โดยเน้นที่ไหล่ของเขาที่ริมเส้นในครึ่งหลัง

นักเตะทีมชาติบราซิลรายนี้ยังคงสนุกสนานกับการแข่งขันเต็มแมตช์ แม้ว่าเทรนต์จะนั่งหมวกคลุมศีรษะอยู่บนม้านั่งก็ตาม

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่ลงแทนดิแอซที่บาดเจ็บในนาทีที่ 42 ทำประตูให้ลิเวอร์พูลเสมอภาคกับแอรอน แรมส์เดล และดูเหมือนว่าหงส์แดงจะอยู่ในฐานะที่จะเก็บทั้งสามแต้มได้

อย่างไรก็ตาม เรด โลหะหนักไม่เคยสร้างขึ้นจากอีควอไลเซอร์นั้น ซาก้าเป็นคนทำประตูในลีกนัดที่ 3 ของฤดูกาลและนัดที่สองของแมตช์ คราวนี้มาจากจุดโทษหลังจากติอาโก้เตะกาเบรียล เชซุส

มันค่อนข้างดีระหว่างประตูในนาทีที่ 76 ของ ซากา กับการเป่านกหวีดสุดท้าย แม้ว่า แรมส์เดล จะไม่ถูกบังคับให้ทำการทดสอบใดๆ

พอล เมอร์สันกล่าวก่อนเกมดาร์บี้ลอนดอนเหนือของสัปดาห์ที่แล้วที่ชนะท็อตแนมและลิเวอร์พูลจะทำให้อาร์เซนอลเป็นแชมป์ และเราก็มาถึงแล้ว

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชูอินเพื่อจบท็อปโฟร์เป็นอย่างน้อย และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะตกชั้นอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ทำแฮตทริกได้ทุกเกม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจบเหนือลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้โดยทีมของคล็อปป์อายุมากเป็นอันดับสามในดิวิชั่น ขณะที่อาร์เซนอลคือคนที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง จบรายการนี้ ทั้งสองทีมดูอายุกัน

มาร์ติเนลลีเป็นผู้เล่นที่สามารถเข้าสู่ทีมสูงสุดของลิเวอร์พูลและผลงานของแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ขณะที่เทรนต์ฝันร้ายก็คือบทกวีที่ได้รับโฆษณาก่อนเกม

อายุของลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นในขณะที่เด็กอายุ 21 ปีสองคนลงแข่งขัน และทำให้ทีมกันเนอร์สนำหน้าทีมของคล็อปป์ถึง 14 แต้มซึ่งอาจต้องลงแข่ง UFABETWIN

UFABETWIN วิเคราะห์ระบบโครงสร้าง : ทำไมเอเชียจึงผูกขาดโควตาฟุตบอลโลกเพียง 5 ชาติ

การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด โดยได้ 4 ทีมที่คว้าโควตาสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์เป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และซาอุดีอาระเบีย โดยยังเหลืออีกหนึ่งโควตาให้ตัวแทนจากเอเชียไปตัดสินกับตัวแทนจากอเมริกาใต้ในรอบเพลย์ออฟ

นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทีมจากเอเชียได้โควตาไปฟุตบอลโลกด้วยจำนวนจำกัดมากที่สุด 5 ทีม เพราะนับจากฟุตบอลโลก 2026 เป็นต้นไป เอเชียจะได้เพิ่มโควตาเป็น 8 ทีม ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้อีกหลายประเทศได้สัมผัสคำว่า ฟุตบอลโลก เสียที

ถือโอกาสนี้มาวิเคราะห์โครงสร้างของการแข่งขันฟุตบอลโลก เหตุใดทวีปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เอเชีย จึงได้โควตาลงเล่นในฟุตบอลโลกไม่เกิน 5 ทีมมาอย่างยาวนานนับ 20 ปี

เหมาะสมกับผลงานบนเวทีฟุตบอลโลก

เหตุผลแรกที่ทำให้ชาติจากทวีปเอเชียได้โควตาลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายผ่านระบบการแข่งขันรอบคัดเลือกเพียง 5 ชาติ คือความสำเร็จของประเทศในเอเชียบนเวทีฟุตบอลโลกที่ยังจับต้องเป็นรูปธรรมไม่ได้จนถึงปัจจุบัน

ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลโลก มีเพียงทีมจาก 2 ทวีปเท่านั้นที่ก้าวไปคว้าตำแหน่งแชมป์มาครองได้สำเร็จ นั่นคือ ยุโรป และ อเมริกาใต้ ทั้งสองต่างถือเป็นมหาอำนาจในวงการลูกหนังโลกมาตั้งแต่ก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทเจ้าภาพหรือตำแหน่งแชมป์โลก

ด้วยเหตุนี้เมื่อมีการปรับเปลี่ยนโควตารอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งใหญ่ นั่นคือก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 ที่มีการเพิ่มจำนวนชาติในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็น 32 ทีม ทวีปยุโรปจึงได้รับโควตาไปมากที่สุด 14 ทีม (ไม่รวมเจ้าภาพ ฝรั่งเศส) ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนั้นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมีจำนวนทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม โควตาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจึงจำเป็นต้องปรับให้มีความใกล้เคียงกับฟุตบอลยูโร

ส่วนทวีปอเมริกาใต้ได้รับโควตาไปทั้งหมด 5 ทีม ซึ่งมองผ่าน ๆ อาจไม่ใช่จำนวนที่เยอะมากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบโควตาที่โซนอเมริกาใต้กับชาติทั้งหมดที่มีสิทธิลงแข่งขันรอบคัดเลือกในโซนดังกล่าวจะพบว่าอเมริกาใต้คือโซนที่ได้สัดส่วนทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด

เนื่องจากทวีปอเมริกาใต้มีทีมชาติที่ลงแข่งขันในรอบคัดเลือกเพียงแค่ 10 ทีม หมายความว่าทวีปอเมริกาใต้มีโอกาสส่งชาติตัวแทนไปฟุตบอลโลกด้วยสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์จากโควตา 5 ทีม ซึ่งเมื่อเทียบกับทางฝั่งยุโรปแล้วอเมริกาใต้อาจเป็นโซนที่สามารถเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้มากที่สุด เพราะถึงยุโรปจะได้โควตามากที่สุดด้วยจำนวน 13 ทีมแต่มีชาติสมาชิกเข้าชิงชัยมากถึง 55 ประเทศ

เห็นได้ชัดว่า ยุโรป และ อเมริกาใต้ คือภูมิภาคที่ได้รับสิทธิพิเศษในการจัดสรรโควตาการผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอย่างทั่วถึง ทั้งนี้เป็นเพราะผลงานของทั้งสองทวีปเป็นตัวชูโรงในการแข่งขันฟุตบอลโลกเสมอมา ดังนั้นแล้วพื้นที่ 32 ทีมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจึงคำนึงถึงโควตาที่ยุโรปและอเมริกาใต้ควรจะได้รับ ก่อนจะนำโควตาที่เหลือมาจัดแบ่งให้กับทวีปอื่น

สำหรับโควตา 3.5 ทีม หรือโอกาสเข้ารอบสุดท้ายมากที่สุด 4 ทีม ที่ทวีปเอเชียได้รับในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 จึงถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลกับผลงานของชาติเอเชียในเวทีฟุตบอลโลกขณะนั้น โดยผลงานของทีมจากเอเชียที่น่าสนใจก่อนฟุตบอลโลก 1998 ได้แก่

 

UFABETWIN

 

การเข้าสู่รอบสุดท้ายของ ดัตช์ อีสต์ อินดีส (อินโดนีเซียในปัจจุบัน) เมื่อปี 1938 ก่อนจะแพ้ ฮังการี ไป 0-6 จนตกรอบแรกไป, ผลงานช็อกโลกของ เกาหลีเหนือ เมื่อปี 1966 จากชัยชนะเหนือ อิตาลี 1-0 จนผ่านเข้าสู่รอบสองของการแข่งขัน และความสำเร็จของ ซาอุดีอาระเบีย ที่เอาชนะ โมร็อกโก และ เบลเยียม ในรอบแบ่งกลุ่ม จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบสองฟุตบอลโลก 1994 ได้สำเร็จ

เมื่อมองไปยังผลงานภาพรวมทั้งหมด ทีมจากเอเชียสามารถคว้าชัยชนะในฟุตบอลโลกไปเพียง 3 แมตช์เท่านั้น ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 การเพิ่มโควตาเป็นสองเท่าจาก 2 ทีมสู่ 4 ทีมในการแข่งขันครั้งดังกล่าวจึงถือเป็นการเพิ่มโควตาที่สมเหตุสมผลแล้วกับทวีปเอเชีย

ยิ่งเมื่อเทียบกับโควตาของโซนอื่นที่มีผลงานใกล้เคียงกับทวีปเอเชียอย่างแอฟริกาที่ได้โควตา 5 ชาติ หรือโซนคอนคาเคฟที่ได้เพียง 3 ชาติ จะพบว่าจำนวนทีมที่สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของชาติเอเชียสอดคล้องไปตามผลงานที่ปรากฏบนเวทีฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้

 

เมื่อทีมจากทวีปเอเชียผลงานดีขึ้นในฟุตบอลโลกโควตาในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เห็นได้ชัดจากผลงานอันน่าประทับใจของ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 โดยเกาหลีใต้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวไปคว้าอันดับ 4 ของการแข่งขัน ส่วนญี่ปุ่นสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ผลงานตรงนี้ส่งผลให้โควตาของชาติเอเชียในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถูกปรับเป็น 4.5 ทีม หรือโอกาสเข้ารอบสุดท้ายมากที่สุด 5 ทีมอย่างเป็นทางการในศึกฟุตบอลโลก 2006 แม้จะมีการเพิ่มออสเตรเลียเข้ามาในโซนเอเชีย

แต่การเพิ่มจำนวนทีมตรงนี้ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของชาติเอเชียในการพิสูจน์คุณภาพของกีฬาฟุตบอลบนเวทีโลก เนื่องจากมีเพียงสองโซนเท่านั้นที่ได้รับโควตาเพิ่มขึ้นนับจากฟุตบอลโลก 1998 คือ เอเชีย และ คอนคาเคฟ ที่ปรับจาก 3 ทีม เป็น 3.5 ทีม ในศึกฟุตบอลโลก 2006 เช่นเดียวกัน

นับจากวันนั้นชาติจากเอเชียต้องเผชิญความท้าทายมากมายบนเวทีฟุตบอลโลก ซึ่งมีหลายครั้งที่ผลลัพธ์เป็นความล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นความพ่ายแพ้ของ เกาหลีเหนือ ต่อ โปรตุเกส 0-7 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 หรือการเป็นทวีปเดียวในฟุตบอลโลก 2014 ที่ไม่มีทีมที่อยู่ใน 40 อันดับแรกของโลกอยู่เลย

ประเด็นเหล่านี้นำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ต่อโควตาที่ทวีปเอเชียได้รับว่าสอดคล้องกับคุณภาพของชาติในภูมิภาคหรือไม่ แต่สุดท้ายชาติเอเชียได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา จากความสำเร็จในการพา 5 ประเทศเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ได้แก่ อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ซาอุดีอาระเบีย และ ออสเตรเลีย

เมื่อบวกกับโอกาสประจวบเหมาะที่ กาตาร์ ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ผลงานอันโดดเด่นในฟุตบอลโลกครั้งก่อนจึงมีส่วนช่วยให้โซนเอเชียสามารถรักษาโควตา 4.5 ทีมเอาไว้ได้ แตกต่างจากฟุตบอลโลก 2002 ที่ทวีปเอเชียถูกลดโควตาลงเหลือ 2.5 ทีม เนื่องจากแบ่งโควตาอัตโนมัติให้เจ้าภาพอย่าง ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้

ฟุตบอลโลก 2022 จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นชาติเอเชียเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 6 ทีมเป็นครั้งแรก เนื่องจากมีโควตาทั้งหมด 5.5 ทีม โดยโควตาที่ได้เพิ่มเติมนี้ยังเป็นการแย่งมาจากโซนยุโรปที่จะเหลือทีมเข้ารอบสุดท้ายเพียง 13 ทีมเป็นครั้งแรก นี่จึงถือเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่และสัญญาณอันดีของวงการฟุตบอลในเอเชียอย่างแท้จริง

เหมาะสมกับคุณภาพของชาติในภูมิภาค

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โควตาฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 ชาติเพียงพอกับประเทศในทวีปเอเชียปัจจุบันคือ การแข่งขันรอบคัดเลือกในทวีปเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะคัดแต่ทีมที่มีศักยภาพพร้อมลงเล่นฟุตบอลโลก เพื่อเผชิญหน้ากับยอดทีมในทวีปอื่นด้วยปริมาณที่เหมาะสม

ทีมจากเอเชียจำเป็นต้องยอมรับก่อนว่าแม้ผลงานภาพรวมของภูมิภาคจะมีความพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่คุณภาพของทีมฟุตบอลในประเทศส่วนใหญ่ยังตามหลังอีกหลายภูมิภาคทั่วโลก การพัฒนาวงการฟุตบอลในหลายชาติยังขาดความต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากแทคติกของหลายชาติที่ยังคงเดินตามหลังเทรนด์ทั่วโลก

การพัฒนาฟุตบอลในโลกปัจจุบันย่อมต้องให้ความสำคัญกับพื้นฐานของการเล่นฟุตบอลด้วยทักษะ เน้นการครองบอลเป็นสำคัญ และเข้าใจการเคลื่อนที่เพื่อควบคุมพื้นที่อย่างดุดัน ซึ่งการวางพื้นฐานในลักษณะนี้จะต้องเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชนเหมือนกับที่ญี่ปุ่นวางรากฐานนี้ไว้จนผลิดอกออกผลเป็นนักเตะคุณภาพในปัจจุบัน

น่าเสียดายที่หลายชาติในเอเชียปฏิเสธจะวางแนวทางเพื่อหวังผลระยะยาวแบบญี่ปุ่น การเลือกเฮดโค้ชเพื่อเข้ามารับงานในทีมชาติแบบสุ่มดวงจะทำให้ขาดความต่อเนื่องทางแทคติก และสิ่งนี้ยังเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทวีปเอเชีย โดยเห็นได้ชัดจากทีมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เมื่อเชื่อมโยงโค้ชคนก่อนกับคนปัจจุบันจะมองไม่เห็นพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม แทคติกที่ใช้เป็นไปตามโค้ชแต่ละคน ซึ่งจะได้ผลหรือไม่ก็แล้วแต่โชคชะตาว่าสุ่มดวงเข้าเป้าหรือไม่

 

UFABETWIN

 

สิ่งนี้คือการมองเพียงผลลัพธ์ระยะสั้นที่บางครั้งเป็นแค่การเลือกโค้ชเพื่อจะประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับภูมิภาค เช่น ฟุตบอลซูซูกิ คัพ ส่งผลให้หลายชาติในเอเชียมีคุณภาพฟุตบอลที่ย่ำอยู่กับที่ เนื่องจากไม่มีการพัฒนาทักษะนักเตะอย่างถูกต้อง ส่วนชาติที่ติดเครื่องไปแล้วก็จะเดินหน้าเพื่อยึดยอดสูงสุดของวงการฟุตบอลเอเชียไปเรื่อย ๆ

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2022 โซนเอเชีย ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ 4 ชาติที่สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2018 ต่างพากันจองตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่กาตาร์กันอย่างครบครัน ได้แก่ อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งหมดต่างคว้าโควตานี้ได้ก่อนการแข่งขันจะสิ้นสุดลงหนึ่งนัด แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ห่างชั้นกับทีมอื่นในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

ในทางกลับกันหลายชาติที่ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสาม โซนเอเชีย ยังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ลงเล่น 9 นัดเก็บได้เพียง 9 แต้ม ทั้งที่เป็นเต็งสามของกลุ่ม A หรือมหาอำนาจอย่าง จีน ที่เค้นฟอร์มไม่ออกที่แพ้แม้กระทั่ง เวียดนาม ในการแข่งขันกลุ่ม B

เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าทีมที่มีคุณภาพมากพอและเหมาะสมจะลงเล่นในฟุตบอลโลกของโซนเอเชียมีเพียง 5 ทีมเท่านั้น ซึ่งยังคงเป็น 5 ทีมที่สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2018 นั่นคือ อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ซาอุดีอาระเบีย และ ออสเตรเลีย ส่วนชาติอื่นในโซนเอเชียยังคงฟอร์มไม่สม่ำเสมอและเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้

แม้การพัฒนาของหลายภูมิภาคในทวีปเอเชียจะเป็นไปอย่างน่าจับตา เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถส่งตัวแทนเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสามได้แล้วหลายครั้ง หรือภูมิภาคเอเชียกลางที่พัฒนาอย่างน่าจับตา แต่ก็ต้องยอมรับว่าถึงจะมีการพัฒนามากขนาดนี้ทีมจากอาเซียนและเอเชียกลางยังไม่ใกล้เคียงกับคุณภาพของทีมจากตะวันออกกลาง ซึ่งหลายชาติจากตะวันออกกลางก็ยังคงมีคุณภาพห่างไกลทีมระดับฟุตบอลโลก

นี่จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า เมื่อฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมีการเพิ่มจำนวนทีมจาก 32 เป็น 48 ทีมสำหรับการแข่งขันอีกสี่ปีข้างหน้า ชาติจากเอเชียซึ่งจะได้เพิ่มโควตาจาก 4.5 ทีมเป็น 8 ทีม จะสามารถพัฒนาคุณภาพให้ทัดเทียมกับการแข่งขันฟุตบอลโลกได้หรือไม่

เพราะต้องยอมรับว่าการถูกถล่มแบบยับเยิน เช่น ซาอุดีอาระเบีย ที่พ่ายต่อ เยอรมัน 0-8 ในฟุตบอลโลก 2002 หรือความพ่ายแพ้ของ เกาหลีเหนือ ต่อ โปรตุเกส 0-7 ในฟุตบอลโลก 2010 ได้เลือนหายไปจากฟุตบอลโลกค่อนข้างนานแล้ว ซึ่งคงไม่มีใครอย่ากเห็นความยับเยินแบบนี้กลับมาอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2026

โควตา 5 ทีมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ทวีปเอเชียได้รับในปัจจุบันจึงมีความเหมาะสมทุกประการ แต่จำนวนทีมที่กำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ชาติในฟุตบอลโลกครั้งหน้าจะเป็นบททดสอบของวงการฟุตบอลเอเชียอีกครั้งว่าจะสามารถเดินตามการขยายตัวของวงการฟุตบอลโลกได้ทันหรือไม่ ท่ามกลางโอกาสครั้งใหญ่ที่กำลังจะถูกหยิบยื่นให้ในฟุตบอลโลกครั้งถัดไป

UFABETWIN

UFABETWIN การโต้เถียงช่วงทดเวลาเจ็บของยูเวนตุสปิดบังปัญหาที่ใหญ่กว่าและยาวนานขึ้น

UFABETWIN การโต้เถียงช่วงทดเวลาเจ็บของยูเวนตุสปิดบังปัญหาที่ใหญ่กว่าและยาวนานขึ้น

UFABETWIN การโต้เถียงในช่วงทดเวลาเจ็บทำให้ยูเวนตุสเอาชนะซาเลร์นิตาน่าได้ แต่การโฟกัสที่แคบไปที่ปัญหาหน้ากากแบบเสแสร้งเหล่านั้นกลับย้อนไปถึงฤดูกาลที่แล้วในยุคของวิดีโอที่แพร่ระบาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฉากจบการแข่งขันกัลโช่เซเรียอา

ระหว่างยูเวนตุสและซาเลอร์นิตาน่าจะฉายไปทั่วโลก เมื่อเวลาผ่านไป 90 นาทีที่อลิอันซ์ อารีน่า ยูเวนตุสตามหลัง 2-1 และเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้ในลีกนัดแรกของฤดูกาลในนาทีที่ 93 พวกเขาได้รับเส้นชีวิตเมื่อได้จุดโทษ ลีโอนาร์โด โบนุชชีก้าวขึ้นไปรับและทำประตู

ในความพยายามครั้งที่สองหลังจากเซฟลูกแรกของเขาได้ และอีกสองนาทีต่อมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะคว้าชัยชนะที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เมื่ออาร์คาดิอุ สซ์ มิลิ กทำตาข่ายอีกครั้งด้วยการโหม่งลูกโหม่ง

แต่ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยวิดีโอก้าวเข้ามา ซึ่งได้รับใบเหลืองอยู่แล้ว ถูกไล่ออกจากสนามเพราะถอดเสื้อของเขา และเมื่อเกมเริ่มอีกครั้ง ทุกอย่างก็หยุดลงในขณะที่ทบทวนเป้าหมาย ในที่สุด

ก็ตัดสินใจได้ว่าโบนุชชีล้ำหน้าในขณะที่เขาพยายามจับลูกบอลผ่านผู้รักษาประตู และไม่อนุญาตถึงเวลานี้ นรกทั้งหมดก็พังทลายลง ต่างก็ถูกใบแดงในขณะที่ผู้จัดการ ก็ถูกไล่ออกเช่นกัน

UFABETWIN

การแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอ 2-2

โดยฝ่ายเจ้าบ้านส่งเสียงครวญครางจากการแทรกแซงของผู้ช่วยวิดีโอแต่ความสนใจที่มุ่งไปที่ข้อบกพร่องของ ในการแข่งขันครั้งนี้จะบอกเพียงส่วนหนึ่ง

ของเรื่องราวที่กว้างขึ้นเท่านั้น ผลลัพธ์นี้ทำให้ยูเวนตุสอยู่อันดับที่แปดในตารางเซเรีย อา โดยตามหลังจ่าฝูงไปแล้วสี่แต้ม และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังเป็นหนึ่งในสี่ทีมที่ไม่แพ้ใครในลีกฤดูกาลนี้

(รองจากนาโปลี, อตาลันต้า และมิลาน) สถิตินั้นค่อนข้างถูกบ่อนทำลายโดยข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาชนะแค่สองเกมในลีก เสมออีกสี่เกมนอกจากนี้ แคมเปญแชมเปียนส์ลีกของพวกเขา

ไม่ได้เริ่มต้นในรูปแบบความคิดด้วย โดยการแข่งขันกลุ่มแรกของพวกเขาจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อ 2-1 ซึ่งพวกเขาตามหลังจุดกึ่งกลางในครึ่งแรกไป 2 ประตู ด้วยสี่แมตช์ที่พบกับเบนฟิก้าและมัคคาบี้

ไฮฟา พวกเขาอาจพิจารณาแพ้ เป็นการสูญเสียที่ยอมรับได้ แต่นี่ก็ยังเป็นผลที่ทำให้พวกเขาต้องเล่นตามในกลุ่มของพวกเขา ความล้มเหลวในการเอาชนะเบนฟิก้าที่บ้านในนัดต่อไปของพวกเขา

จะทำให้โอกาส ในการผ่านเข้ารอบ น็อกเอาต์แรกของ การแข่งขันดูสั่นคลอนอย่างแน่นอน บทสรุปอันน่าทึ่ง ของการแข่งขัน บอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ยูเวนตุสตาม หลังไปแล้วสอง ประตูจากคู่แข่ง ในระดับปานกลาง

ก่อนที่จะดึงกลับ เข้าสู่เกมในตอนแรก เมื่อประตูของ ถูกไล่ออก พวกเขาจำเป็นต้องได้จุดโทษ ในช่วงทด เวลาบาดเจ็บเพื่อกลับไปสู่ความเท่าเทียมกันการดูละคร เรื่องนี้เผยออกมา เป็นเรื่องยาก UFABETWIN

ที่จะไม่ไตร่ตรอง ถึงความจริงที่ว่า ยูเวนตุส พบว่าตัวเองต้อง พึ่งพานาทีพิเศษเหล่านั้น ตั้งแต่แรก ด้วยความเสี่ยงที่เสียง จะดูถูกคู่ต่อสู้ของพวกเขา ยูเวนตุส ซึ่งเป็นหนึ่ง ในตัวรุกหลักที่อยู่เบื้อง หลังการล่มสลาย ของซูเปอร์ลีกยุโรปที่กำลังดำเนิน อยู่นั้นไม่ควรจะตบ กลางตาราง

เซเรียอาอย่างสบายใจ ใช่หรือไม่ชัยชนะ ในลีกครั้งเดียว

ของพวกเขามา จากสเปเซีย อีกทีมหนึ่งที่คาดว่า จะต้องดิ้นรน ในฤดูกาลนี้ โดยเสมอกับ ซามพ์โดเรีย, โรม่า และฟิออเรนติน่า เหนือกว่าผลการแข่งขันซาแลร์นิตาน่า เห็นได้ชัดว่า ยังเร็วเกินไปที่จะปิดฤดูกาล

ส่วนใหญ่ยังคงคาดหวังว่า พวกเขาจะจบท็อปโฟร์ เป็นอย่างน้อย และผ่านเข้ารอบสำหรับ แชมเปี้ยนส์ลีกปีหน้า แต่เห็นได้ชัดว่า การเริ่มต้นช้าเป็นเรื่องที่น่ากังวลทั้งหมดนี้ ทำให้เกิดความร้อนแรง ขึ้นภายใต้

หัวหน้าโค้ช อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ชาวอิตาลีเป็นเวลาสองปี ในการสะกดครั้งที่สองของเขา กับยูเวนตุส ครั้งแรก ของเขาจบลงด้วย เปอร์เซ็นต์การชนะสูงสุดของโค้ช คนใดในประวัติศาสตร์ ของสโมสร

และแชมป์เซเรีย อา 5 สมัยติดต่อกัน (จากทั้งหมด 9 สมัย) แต่การกลับมาของเขาล้มเหลวในการเข้าใกล้ความสูงเหล่านั้นฤดูกาลที่แล้ว ยูเวนตุส รั้งอันดับที่ 4 และตำแหน่งแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ที่สำคัญทั้งหมดนั้น

แต่เรื่องราวของฤดูกาลของพวกเขาอาจแสดงให้เห็นได้ดีที่สุดจากข้อเท็จจริงที่ว่าขณะที่พวกเขาทำแต้มเหนือจุดต่ำสุดของฟุตบอลยุโรปได้ 8 แต้ม – ฟิออเรนติน่าที่อยู่ในอันดับที่เจ็ด คว้าตำแหน่งยูโร

ปาคอนเฟอเรนซ์ลีก – พวกเขาเสร็จ 16 แต้มหลังแชมป์มิลานกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยูเวนตุส ฤดูกาลที่แล้วใกล้เคียงกับตำแหน่งกองกลางมากกว่าท็อป และมีสัญญาณไม่กี่สัญญาณในฤดูกาลนี้ที่บ่งชี้

ว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่จะปิดช่องว่างนั้นได้ และในขณะที่คุณสมบัติของแชมเปี้ยนส์ลีกมีความสำคัญต่อสวัสดิภาพทางการเงินของพวกเขา ดูเหมือนชัดเจนว่าอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้สโมสรมีฐานะทางการเงินได้มีรายงานเมื่อสิ้นปี 2564 ว่ายูเวนตุสสูญเสียเกือบ 210 ล้านยูโร

UFABETWIN

ระหว่างแคมเปญ 2020/21 และการสูญเสียทางการเงิน

สำหรับฤดูกาลที่แล้วไม่คาดว่าจะดีขึ้น แม้จะจัดการเพื่อเอาน้ำหนักที่ตายจากค่าจ้างของคริสเตียโน โรนัลโดออกจากบัญชีได้ บัญชีแยกประเภท ฤดูร้อนนี้นำการกลับมาของ หลังจากช่วงเวลาที่ไม่มีความสุข

ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่เขาเป็นหัวข้อข่าวซุบซิบที่แปลกประหลาดที่สุดของฤดูกาลนี้แล้วและจะไม่เล่นให้กับพวกเขาจนถึงมกราคมต่อไปหลังจากได้รับบาดเจ็บที่เข่าในช่วงพรีซีซั่น ซึ่งทำให้เขาต้องเข้า

รับการผ่าตัดสิ่งนี้ไม่ถือเป็นวิกฤตสำหรับหญิงชรา แต่สัญญาณเตือนกำลังเริ่มก่อตัว มิลานได้รับการฟื้นฟู ในขณะที่สัญญาณเริ่มต้นในฤดูกาลนี้คือ อูดิเนเซ่ และอตาลันต้า สองสโมสรที่ลื่นล้มบ้างเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

อาจจะอยู่เบื้องหลังพวกเขา การรวมกันของความโชคร้ายและการซุบซิบนินทารอบ ๆ เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและไม่น่าแปลกใจเลยแต่ที่รากของมันคือช่องว่างระหว่างข้ออ้างของสโมสรกับความเป็นจริงของ

ตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขา สำหรับการพูดคุยของ ทั้งหมด เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ ได้ลดระดับลงในฤดูกาลที่ผ่านมาจนถึงจุดที่ยากจะถือว่าพวกเขาเป็นหนึ่งใน ‘ชนชั้นสูง’ ของสโมสรฟุตบอลยุโรป

หากพวกเขาไม่เริ่มชนะการแข่งขันเพิ่มเติม อีกครั้ง. และช่องว่างนั้นมักจะถูกมองข้ามอีกครั้งจากการโต้เถียงเรื่องช่วงทดเวลาเจ็บระหว่างเกมกับซาเลร์นิตาน่าความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของ ไม่ควรเป็นผู้ชนะ

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บกับฝ่ายตรงข้ามในระดับปานกลาง ควรจะเป็นความล้มเหลวในการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในระดับปานกลางยังคงเกิดขึ้นและการเริ่มต้นที่ช้าของฤดูกาลนี้ดูเหมือนจะเป็นความต่อเนื่อง

ของฤดูกาลที่ผ่านมาที่ท่วมท้นมากกว่าการเริ่มต้นของอะไรที่สดใหม่ สำหรับสโมสรที่มีสไตล์ในตัวเองท่ามกลางกลุ่มหัวกะทิของยุโรป นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะทนได้นานกว่านั้นแน่นอน

และอัลเลกรีอาจได้รับการอภัยให้มองข้ามไหล่ของเขาในขณะที่เขาไปทำงานในสัปดาห์นี้